ก.เกษตรฯ แก้ปัญหายางพารา ปรับซื้อราคากลางบวกเพิ่ม 5 บาท
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ข้อสรุป หลังจากเกษตรกรสวนยางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปิดถนนประท้วงราคายางตกเมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) โดยองค์การสวนยางจะเป็นผู้ดำเนินการรับซื้อยางพาราในราคากลาง โดยบวกเพิ่มกิโลกรัมละ 5 บาท จากเดิมที่กำหนดว่าจะเพิ่มให้ 3 บาท ซึ่งจะเร่งดำเนินการทันที โดยใช้วงเงิน 15,000 ล้านบาท ในโครงการแทรกแซงราคายางพาราที่รัฐบาลอนุมัติไว้ ส่วนข้อเรียกร้องเกษตรกรสวนยางจังหวัดสุราษฏร์ธานี ให้รัฐบาลรับซื้อยางพาราที่กิโลกรัมละ 120 บาท ในขณะที่นายวิทย์ ประทักษ์ใจ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ระบุว่าเป็นไปได้ยาก เพราะสวนทางกับราคาในตลาดโลกที่ยังคงมีแนวโน้มลดลง เช่นเดียวกับราคาน้ำมัน นอกจากนี้มีการชะลอคำสั่งซื้อของจีน เพราะยังมีสต็อกสินค้าจากอินโดนีเซียอยู่ ทำให้ราคายางในไทยปรับเพิ่มได้ยาก จากการคำนวณต้นทุนราคายางของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร พบว่าต้นทุนราคายางอยู่ที่ประมาณ 51 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งการรักษาราคายางให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 60 บาท ก็ถือว่าเกษตรไม่ขาดทุน
นายวิรัตน์ อินทรัตน์ ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราในจังหวัดตรัง ติดตามความเคลื่อนไหว ของกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดสุราษฎร์ธานีอย่างใกล้ชิด โดยระบุว่ารัฐบาลต้องทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับชาวสวนยางพารา เมื่อครั้งประท้วงปิดถนนที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ที่จะแทรกแซงราคาให้สูงกว่าตลาด และแนะว่ารัฐบาลต้องหามาตรการที่ดีกว่าโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง ด้วยการให้เงินสนับสนุนสถาบันเกษตรกร 15,000 ล้านบาท
ขณะที่ในวันนี้ (11 ก.ค.) มีการประชุมและนิทรรศการยางระดับโลก "ยกระดับความยั่งยืนในอุตสาหกรรมยาง" ซึ่งจะหารือถึงการยกระดับอุตสาหกรรมยาง ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะตั้งเป้าให้กลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ส่งออกยางพารามากเป็นอันดับ 1 ของโลก เป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศทางด้านวิชาการและมีมาตรฐานสากล เพื่อป้องกันการกีดกันทางการค้าในอนาคต