ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เอกชนห่วงเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ขอทุกฝ่ายแสดงออกคดีแก้ รธน.อย่างสันติ

เศรษฐกิจ
12 ก.ค. 55
07:30
35
Logo Thai PBS
เอกชนห่วงเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ขอทุกฝ่ายแสดงออกคดีแก้ รธน.อย่างสันติ

ภาคเอกชนขอให้ทุกภาคส่วน ร่วมแก้ปัญหาการเมืองอย่างสันติ อย่าใช้ความรุนแรงจนเกิดเหตุการณ์บานปลาย เกรงจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ และขอให้รัฐบาลเร่งให้ความสำคัญกับการเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ หลังเจอปัญหาการเมืองมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ภาคเอกชนหลายส่วนมีความคิดเห็นสอดคล้องกันว่า ปัญหาการเมืองที่ผ่านมา บั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยมาตลอด และหลังวิกฤตน้ำท่วมเศรษฐกิจเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัว จึงอยากให้ทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาร่วมกัน และไม่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยต่อการแก้รัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.)

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตระกุล กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย ระบุว่าอยากให้ทุกฝ่ายยอมรับผลการตัดสินของศาล ไม่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร โดยทุกคนสามารถแสดงความเห็นที่แตกต่างกันได้ ขอให้อย่าใช้ความรุนแรง และขออย่ามีการเคลื่อนไหวชุมนุน เพราะจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากเหตุการณ์การเมืองและปัญหาน้ำท่วม โดยเชื่อว่าหากเหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงจะสร้างความเสียหายมากกว่าเหตุการณ์ในอดีต และจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศอ่อนแอ ยากที่จะฟื้นตัว จนส่งผลเสียหายต่อนักลงทุนไทยและต่างชาติ ดังนั้นจึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องอย่าให้ความสำคัญกับการเมืองเท่านั้นแต่ต้องหนุนเศรษฐกิจด้วย เพราะเป็นสิ่งที่ต้องเดินไปด้วยกัน

ทางด้าน นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคประชาชนต้องการเห็นความมีเหตุมีผลและเกิดการสร้างสรรค์ที่ดี เพราะที่ผ่านมาไทยมีปัญหาการเมืองมาโดยตลอด ซึ่งบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ประกอบกับขณะนี้ที่ทุกคนกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ จึงควรมีเวลาเตรียมการเพื่อแก้ปัญหาสำหรับอนาคตมากกว่า เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหาที่หาคำตอบไม่เจอ ดังนั้นหวังให้ประเทศมีความคืบหน้า เพราะตอนนี้เรากำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลควรจะมีการวางแผนดูแลเศรษฐกิจ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันที่เรายังมีไม่เพียงพอ นอกจากนี้ประธาน ส.อ.ท. ยังแสดงความเป็นห่วงต่อเยาวชนที่ต้องเติบโตขึ้นท่ามกลางความขัดแย้ง ซึ่งหากไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงก็จะนำไปสู่ความรุนแรงยิ่งขึ้นในอนาคตและไม่สามารถพัฒนาประเทศได้ จึงต้องการให้คนไทยมีความรัก ความสามัคคี เคารพสถาบัน และมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน

ในขณะที่ นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ระบุว่าภาคการท่องเที่ยวเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความอ่อนไหว และมักได้รับผลกระทบเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อเกิดปัญหาทางการเมือง ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ต้องมาเริ่มต้นใหม่อยู่เสมอ ทั้งผลกระทบจากปัจจัยภายนอกประเทศและภายในประเทศ ซึ่งต้องการให้หาทางออกร่วมกันแบบสันติ เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุข ซึ่งตนเห็นว่าความขัดแย้งนั้นเกิดขึ้นได้ แต่ต้องไม่บานปลายถึงขั้นประท้วงชุมนุมปิดถนน หรือละเมิดสิทธิของคนอื่น เพราะจะกระทบต่อภาพรวมของประเทศ ทำให้ภาพลักษณ์ออกมาไม่ดี ซึ่งประเทศไทยยังเป็นประเทศท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางมาเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ส่วนเรื่องการตัดสินเป็นเรื่องที่อยู่ในดุลพินิจของศาล


ข่าวที่เกี่ยวข้อง