รมว.กลาโหมย้ำ ปรับกำลังทหาร จุดเริ่มต้นที่ดีของ 2 ประเทศ
กำลังตำรวจตระเวรชายแดนจำนวน 2 กองร้อยจากกองกำกับการตำรวจตระเวรชายแดนที่ 23 ค่ายศรีสกุลวงศ์ จ.สกลนคร และกองกำกับการตำรวจตระเวรชายแดนที่ 24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ จ.อุดรธานี เข้าประจำพื้นที่เขาพระวิหาร ตั้งแต่บริเวณผามออีแดง สถูปคู่ ไปจนถึงประตูเหล็กทางขึ้นขาพระวิหาร โดยมีการปรับเปลี่ยนกำลังตำรวจตระเวรชายแดนแทนกำลังทหารในพื้นที่โดยรอบตามคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลก ที่ครบกำหนด 1 ปี ในวันนี้ (18 ก.ค.)
หลังเข้าพื้นที่ ตชด. ได้เข้าประจำหน่วยที่ได้รับมอบหมายเพื่อวางกำลังรักษาความปลอดภัย ซึ่งทุกนายบอกว่า ไม่รู้สึกหนักใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดภารกิจได้
การปรับกำลังทหารของไทย เบืเองต้นจะยังทำงานควบคู่กับทหารพราน และกองกำลังทหารสุรนารี ในพื้นที่ปลอดทหาร เนื่องจากในพื้นที่ยังมีอันตรายจากวัตถุระเบิดที่ยังไม่ได้เก็บกู้
เช่นเดียวกับกัมพูชา ซึ่งวันนี้มีการปรับกำลังทหารเช่นเดียวกัน ซึ่ง พล.อ.เตีย บันห์ รมต.กลาโหมของกัมพูชาเป็นประธาน ส่วนด้าน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กระทรวงกลาโหมของไทยระบุว่าการถอนทหารของทั้งไทยและกัมพูชา จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีระหว่าง 2 ประเทศ และย้ำว่าจะไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบด้านอธิปไตยอย่างแน่นอน โดยเบื้องต้นได้มอบหมายให้ ตชด. ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด
พร้อมกันนี้ รมว.กลาโหม ยืนยันว่า การปรับกำลังหทารไม่ได้มีการประสานกันระหว่างไทยและกัมพูชา ส่วนเรื่องที่จะให้ทหารแต่งชุดชาวบ้าน-ตชด.ปฏิบัติหน้าที่นั้น เป็นเพียงข่าวลือ และเชื่อมั่นว่ากัมพูาจะทำตามข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกัน