ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ร้อนแรงกันตั้งแต่ต้นปี 2025 กับเกมแดงเดือด การโคจรมาพบกันของคู่อริตลอดกาล “ลิเวอร์พูล” ปะทะ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”

ยกแรกเมื่อต้นฤดูกาล เดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา เป็นลิเวอร์พูลที่บุกเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดไป 3 – 0 ล่วงเข้าสู่ยกที่สอง ลิเวอร์พูลจะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนทีมปีศาจแดงบ้าง Thai PBS นำสถิติ และเกร็ดน่ารู้ และโอกาสที่ทีมใดจะเป็นผู้ชนะ มาบอกกัน

“ลิเวอร์พูล - แมนฯ ยูไนเต็ด” ย้อนสถิติที่พบกันมา

ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด พบกันมาแล้วกว่า 243 ครั้ง เจอกันครั้งแรก 28 เมษายน ปี 1894 เป็นลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะไปได้ 2 – 0 ขณะนั้นแมนฯ ยูไนเต็ดยังใช้ชื่อทีมว่า Newton Heath ส่วนแมตช์ล่าสุดที่ทั้งคู่พบกัน เมื่อ 1 กันยายน 2024 ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดไปได้ 3 - 0

สถิติผลการแข่งขันที่เจอกันมา เป็นแมนฯ ยูไนเต็ดมีผลงานที่ดีกว่า เอาชนะไปได้ 91 ครั้ง ลิเวอร์พูล ชนะไป 82 ครั้ง และเสมอกันไป 70 ครั้ง

แมนฯ ยูไนเต็ด เคยมีช่วงเวลาที่ไม่สามารถเอาชนะลิเวอร์พูลได้ ในทุกถ้วย ทุกรายการ ยาวนานกว่า 22 นัด นับตั้งแต่ปี 1916 – 1927 ในมุมกลับกัน ลิเวอร์พูล ก็เคยมีช่วงเวลาที่ไม่สามารถเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดได้เลย ในทุกถ้วย ทุกรายการ จำนวน 10 นัด นับตั้งแต่ปี 1996 – 2000

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์

“ลิเวอร์พูล - แมนฯ ยูไนเต็ด” ย้อนสถิติที่พบกันในพรีเมียร์ลีก

ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด พบกันในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 65 ครั้ง เป็นแมนฯ ยูไนเต็ดเอาชนะไป 29 ครั้ง ส่วนลิเวอร์พูลชนะไป 20 ครั้ง และเสมอกัน 16 ครั้ง

ในจำนวน 65 แมตช์ แมนฯ ยูไนเต็ดมีสถิติเล่นในบ้านดีกว่าลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะไปได้ 17 ครั้ง ส่วนลิเวอร์พูลเปิดบ้านเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดไปได้ 12 ครั้ง ในมุมกลับกัน ด้านเกมเยือน แมนฯ ยูไนเต็ดก็ทำได้ดีกว่า บุกไปเอาชนะลิเวอร์พูลได้ 12 ครั้ง ส่วนลิเวอร์พูลบุกเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดได้ทั้งสิ้น 8 ครั้ง

ส่วน 5 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่พบกัน ลิเวอร์พูลเอาชนะไป 2 ครั้ง แมนฯ ยูไนเต็ดชนะไป 1 ครั้ง และเสมอกัน 2 ครั้ง

1 กันยายน 2024 แมนฯ ยูไนเต็ด 0 – 3 ลิเวอร์พูล
7 เมษายน 2024 แมนฯ ยูไนเต็ด 2 – 2 ลิเวอร์พูล
17 ธันวาคม 2023 ลิเวอร์พูล 0 – 0 แมนฯ ยูไนเต็ด
5 มีนาคม 2023 ลิเวอร์พูล 7 – 0 แมนฯ ยูไนเต็ด
22 สิงหาคม 2022 แมนฯ ยูไนเต็ด 2 – 1 ลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล - แมนฯ ยูไนเต็ด” คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง

ลิเวอร์พูล เจ้าบ้าน คาดว่าจะไม่ได้ใช้งาน โจ โกเมซ, อิบราฮิมา โกนาเต, คอเนอร์ แบรดลีย์ และ เฟเดริโก เคียซา ที่มีอาการบาดเจ็บ โดย 11 รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม ได้แก่

อลิสซง เบคเกอร์ (ผู้รักษาประตู), เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, จาเรลล์ ควอนซาห์, อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซบอสซ์ไล, หลุยส์ ดิอาซ และ โคดี กัคโป

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กระซวกประตูแมนฯ ยูไนเต็ดไปแล้วรวม 15 ประตู

ด้านผู้มาเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่มีผู้เล่นอย่าง เมสัน เมาท์, ลุค ชอว์ และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่มีอาการบาดเจ็บ โดย 11 ผู้เล่นที่คาดว่าลงสนามเป็นตัวจริงในนัดนี้ ได้แก่

อังเดร โอนานา (ผู้รักษาประตู) , ดิโอโก ดาโลต์ , มัตไธจ์ส เดอ ลิกต์ , แฮร์รี แมคไกวร์, เลนี โยโร, นูสแซร์ มาซราวี, มานูเอล อูการ์เต , คอบบี ไมนู , บรูโน แฟร์นันด์ส ,อาหมัด ดิยัลโล, ราสมุส ฮอยลุนด์

อาหมัด ดิยัลโล จะแผลงฤทธิ์เด็ดปีกหงส์ได้หรือไม่ ?

“ลิเวอร์พูล – แมนฯ ยูไนเต็ด” แดงเดือดหนที่ 244 ทีมไหนจะเป็นผู้ชนะ

หากวัดจากสถิติ แมนฯ ยูไนเต็ดยังเหนือกว่าลิเวอร์พูล แต่สำหรับผลงานที่ออกสตาร์ทในครึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา เป็นลิเวอร์พูลที่ดูดีเหนือกว่าอริตลอดกาลอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด

อาร์เนอ สลอต ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล โชว์ฝีไม้ลายมือว่าของจริง

ลิเวอร์พูล ณ ขณะนี้ รั้งตำแหน่งจ่าฝูง แข่ง 18 นัด ชนะ 14 เสมอ 3 แพ้ 1 มี 45 คะแนน แถมเวลานี้ไม่แพ้ใครในลีกติดต่อกันมา 14 นัด โดยนัดล่าสุดที่พลาดท่าแพ้ คือเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2024 แพ้คาบ้านให้กับน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ไป 0 – 1 หลังจากนั้นไม่แพ้ใครอีกเลย โดย 5 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ถล่มประตูไปได้ถึง 19 ประตู

ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด มี 22 คะแนน อยู่ที่ 14 ของตาราง แข่งไป 19 นัด ชนะ 6 เสมอ 4 แพ้ 9 แถม 3 นัดล่าสุด แพ้ติดต่อกันแบบไม่สามารถยิงประตูคู่แข่งได้เลย (แพ้นิวคาสเซิล 0 - 2, แพ้วูล์ฟแฮมป์ตัน 0 - 2, แพ้บอร์นมัธ 0 - 3)

โดยภาพรวม ลิเวอร์พูลเป็นต่ออย่างมาก แถมยังมีอีกสถิติที่น่าสนใจ นับตั้งแต่หมดยุค เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ดบุกไปเอาชนะลิเวอร์พูลถึงถิ่นได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น คือเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2015 โดยเอาชนะไป 2 – 1 และวันที่ 17 มกราคม 2016 บุกเอาชนะไป 1- 0 ส่วนนัดที่เหลือ แมนฯ ยูไนเต็ดไม่เคยไปเอาชนะลิเวอร์พูลถึงถิ่นแอนฟิลด์ได้เลย

แมตช์นี้ ลิเวอร์พูลจำเป็นต้องเดินหน้าเก็บ 3 คะแนนใหญ่ เพื่อทำแต้มทิ้งห่างทีมอันดับสองอย่างอาร์เซนอล ที่กำลังไล่ตามหลังอยู่ 6 คะแนน (นอกจากนี้ลิเวอร์พูลยังมีนัดตกค้างกับเอฟเวอร์ตันอีก 1 นัด)

ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ยังอยู่ในช่วงเวลาที่หาความแน่นอนไม่ได้ และ รูเบน อโมริม เฮดโค้ชคนใหม่ ต้องมองหา “จุดเปลี่ยน” ให้กับทีม ก่อนที่ความมั่นใจของนักเตะจะยิ่งลดน้อยถอยลงไปมากกว่านี้ ผลแพ้ชนะนัดแห่งศักดิ์ศรีนี้จึงมีความสำคัญ ทั้งต่อผู้เล่นปีศาจแดง และกับโค้ชชาวโปรตุเกสผู้นี้

รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีการบ้านให้ทำอีกมากมาย

นับตั้งแต่ปี 2014 – 2024 ทั้งคู่เสมอกันมาทั้งสิ้น 8 นัด (นับเฉพาะในพรีเมียร์ลีก) ดังนั้น ผล 1 คะแนนของแมนฯ ยูไนเต็ดสำหรับนัดนี้ อาจเป็นแต้มที่มีความหมาย แต่ในมุมกลับกัน คงไม่เพียงพอสำหรับลิเวอร์พูล เจ้าถิ่นเป็นแน่

สุดท้ายผลจะออกมาเข้าทางใคร คืนวันอาทิตย์ 5 มกราคม 2568 เวลา 23.30 น. แฟนหงส์แดง & แฟนปีศาจแดง ได้รู้กัน!