ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์นี้ (23 ก.พ.68) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านพบ ลิเวอร์พูล นัดสำคัญที่ต่างฝ่ายอยากได้ชัยชนะ โดยเฉพาะลิเวอร์พูลที่ 3 คะแนนล้ำค่านี้ มีผลต่อการล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก และลดความกดดันจากผลงานที่สะดุดเสมอมาหลายนัดอีกด้วย 

Thai PBS มีสถิติ และเกร็ดน่ารู้ ของทั้งสองทีมมาบอกกัน

“แมนฯ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล” สถิติการพบกันที่ผ่านมา

แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล พบกันในทุกถ้วย ทุกรายการมาแล้วกว่า 227 นัด เป็นแมนฯ ซิตี้เอาชนะไป 60 ครั้ง และลิเวอร์พูลชนะไป 109 ครั้ง และเสมอกันไป 58 ครั้ง

ทั้งสองทีมพบกันครั้งแรกเมื่อ 16 กันยายน ปี 1893 ในลีกดิวิชัน 2 เป็นแมนฯ ซิตี้ (ขณะนั้นใช้ชื่อทีมว่า Ardwick ) เปิดบ้านแพ้แก่ลิเวอร์พูลไป 0 – 1

ส่วนแมตช์ล่าสุดที่พบกัน ในศึกพรีเมียร์ลีก 2024 – 2025 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2024 ลิเวอร์พูลเปิดบ้านเอาชนะไป 2 – 0

“แมนฯ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล” สถิติที่พบกันมาในพรีเมียร์ลีก 

แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล พบกันเฉพาะในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 55 ครั้ง เป็นลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ 22 ครั้ง แมนฯ ซิตี้ชนะไป 12 ครั้ง และน่าสนใจว่า ผลลงเอยเสมอกันไปถึง 21 ครั้ง 

ลิเวอร์พูลเล่นในบ้าน เอาชนะแมนฯ ซิตี้ไปได้ 18 ครั้ง และชนะในเกมเยือน 4 ครั้ง ส่วน แมนฯ ซิตี้ เล่นในบ้านเอาชนะลิเวอร์พูลได้ 10 ครั้ง และชนะในเกมเยือน 2 ครั้ง 

Head to Head 5 นัดหลังสุดที่ทั้งคู่พบกันในลีก ลิเวอร์พูลเอาชนะไป 2 ครั้ง แมนฯ ซิตี้ 1 ครั้ง และเสมอกัน 2 ครั้ง

• 1 ธันวาคม 2024 ลิเวอร์พูล 2 – 0 แมนฯ ซิตี้
• 10 มีนาคม 2024 ลิเวอร์พูล 1 – 1 แมนฯ ซิตี้
• 25 พฤศจิกายน 2023 แมนฯ ซิตี้ 1 – 1 ลิเวอร์พูล
• 1 เมษายน 2023 แมนฯ ซิตี้ 4 – 1 ลิเวอร์พูล
• 16 ตุลาคม 2022 ลิเวอร์พูล 1 – 0 แมนฯ ซิตี้

“แมนฯ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล” คาดการณ์ 11 ตัวจริงลงสนาม

แมนฯ ซิตี้ เจ้าบ้าน คาดว่าจะไม่ได้ใช้งานศูนย์หน้าตัวเก่ง เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่บาดเจ็บในเกมลีกที่พบกับนิวคาสเซิลเมื่อสัปดาห์ก่อน และพลาดโอกาสลงสนามช่วยทีมในศึกยูฟ่า แชมเปียนสลีกที่พบกับ เรอัล มาดริด เมื่อกลางสัปดาห์เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ยังจะไม่มีชื่อของ จอห์น สโตนส์, มานูเอล อคานยี, ออสการ์ บ็อบบ์ และโรดรี ที่ยังอยู่ในช่วงรักษาตัวจากการบาดเจ็บ โดยผู้เล่นที่คาดว่าจะได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงชุดแรก ได้แก่

เอแดร์ซอน (ผู้รักษาประตู), มาเตอุส นูเนส, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, นิโค กอนซาเลซ, มาเตโอ โควาซิช, เควิน เดอ บรอยน์, ซาวินโญ่ ฟิล โฟเดน, โอมาร์ มาร์มูช

ด้าน ลิเวอร์พูล ผู้มาเยือนจะไม่มี โจ โกเมซ, คอเนอร์ แบรดลีย์ และ ไทเลอร์ มอร์ตัน ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกันนี้ คอสตาส ซิมิคาส จะได้รับโอกาสลงสนามก่อน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ในตำแหน่งแบ็คซ้าย รวมถึง หลุยส์ ดิอาซ ที่จะได้รับโอกาสลงสนามก่อน ดีโอโก โชตา และ ดาร์วิน นูนเญซ โดย 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม คือ

อลิซง เบเกอร์ (ผู้รักษาประตู), เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, อิบราฮิมา โกนาเต, คอสตาส ซิมิคาส,  อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซบอสซ์ไล, หลุยส์ ดิอาซ และ โคดี กัคโป

“แมนฯ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล” ศึก 3 คะแนนอันล้ำค่า

แมนฯ ซิตี้ ในเวลานี้ อยู่ที่ 4 ในอันดับตารางพรีเมียร์ลีก โดยมีอยู่ 44 คะแนน ห่างจากจ่าฝูงลิเวอร์พูลที่มีอยู่ 61 คะแนน เรื่องการตามลุ้นแย่งแชมป์คงเป็นเรื่องยาก 

สำหรับลิเวอร์พูลในเวลานี้ แม้จะเป็นจ่าฝูงในตาราง แต่ 5 นัดหลังสุดในลีก หลุดเสมอไป 2 นัด (เสมอเอฟเวอร์ตัน 2 – 2, เสมอแอสตัน วิลลา 2 – 2) ทำให้แต้มสะดุดไป ส่งผลให้อาร์เซนอล ทีมอันดับสอง ไล่กระชั้นชิดขึ้นมา โดยเวลานี้ อาร์เซนอลมีอยู่ 53 คะแนน (แถมอาร์เซนอลแข่งน้อยกว่า 1 นัด)

ดังนั้น ลิเวอร์พูลจำเป็นต้อง “เน้น” ผลการแข่งขันนัดนี้อย่างมาก เพื่อลดช่องว่างของคะแนน ไม่ให้อาร์เซนอลไล่กระชั้นเข้ามามากกว่านี้ (สัปดาห์นี้ อาร์เซนอลลงสนามก่อน เปิดบ้านพบเวสต์แฮม ในคืนวันเสาร์ 22 ก.พ.68) 

การได้ผลการแข่งขันที่ดีกับแมนฯ ซิตี้ นอกจากจะทำให้ลิเวอร์พูลได้ 3 คะแนนสำคัญไปแล้ว ยังทำให้ขุนพลหงส์แดงผ่อนคลายความกดดันลงไป แถม 5 นัดในลีกต่อไป ลิเวอร์พูลจะได้เล่นในบ้านถึง 4 นัด (พบกับนิวคาสเซิล, เซาธ์แฮมป์ตัน, เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม) ส่วนอีก 1 นัด ออกไปเล่นเกมเยือนพบกับฟูแลม

อย่างไรก็ตาม 10 ปีที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของลิเวอร์พูลในทุกรายการ ทำผลงานแพ้ไปแค่ 3 นัด จึงน่าสนใจว่า การเปิดบ้านเจอพลพรรคหงส์แดงครั้งล่าสุดนี้ แมนฯ ซิตี้จะยังคงทำได้ดีอีกครั้งหรือไม่

ต้นฤดูกาล ลิเวอร์พูลเปิดบ้านชนะแมนฯ ซิตี้ไป 2 – 0 ทว่าเจอกันรอบล่าสุดนี้ แมนฯ ซิตี้หวังจะล้างตา คว้า 3 คะแนนคืนอย่างแน่นอน แต่หากดูจากสถิติการพบกันในลีกกว่า 55 ครั้งที่ผ่านมา ผลจบลงด้วยการเสมอกันถึง 21 ครั้ง ดังนั้น โอกาสที่ทั้งสองทีมจะแบ่งแต้มกันไปก็เป็นไปได้ แต่เชื่อว่า ผลเสมอคงไม่เป็นผลดีต่อลิเวอร์พูลนัก

ลิเวอร์พูลจะสยบแมนฯ ซิตี้ลงได้อีกครั้งหรือไม่ ติดตาม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ “แมนฯ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล” วันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ.68 เวลา 23.30 น. ห้ามพลาด!