วิบากกรรม ของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ในช่วงนี้ด้านคดีความ ดูจะหนักหน่วงเพราะนอกจากเมื่อวานที่ผ่านมา คณะกรรมการสอบปมขัดแย้ง ที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น จะสรุปผลตามความเห็นตาม ศาล ว่ามีความผิดเข้าข่าย "ฐานฟอกเงิน" ตามข้อกล่าวหา ตำรวจ ปปป. ยังตรวจพบว่า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ และลูกน้อง แสดงบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ และ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบและชี้มูล อีก 2 ข้อหา
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือที่รู้จักกันในชื่อทนายตั้ม ออกมาเปิดหลักฐาน เส้นทางการเงินระหว่างเว็บพนันออนไลน์ ที่โยงไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นการเปิดหน้าชน อย่างไม่เกรงกลัว ทำเพราะต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงขององค์กรตำรวจดีขึ้นแต่กระแสสังคมตั้งข้อสังเกตว่า ทำเพื่อชาติหรือเพื่อใคร
ทนายความ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินสายยื่นหนังสือขอให้พนักงานสอบสวน ยุติการสอบสวนคดีเว็บพนัน ที่กำลังเชื่อมโยงถึงพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ซึ่งมีการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 26 มีนาคม หรือวันพรุ่งนี้ และยังไปฟ้อง ชุดพนักงานสอบสวนที่ทำคดีทั้งหมดต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
พนักงานสอบสวน นำส่งหมายเรียก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา สมคบกันฟอกเงิน-ร่วมกันฟอกเงิน กรณีพบความเกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินกับกลุ่มผู้ต้องหาเว็บไซต์พนันออนไลน์ คดีในความรับผิดชอบ ท้องที่ สน.เตาปูน ในหมายเรียก ระบุให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 21 มีนาคมนี้
อาจจะเรียกว่าดับฝันก็ได้ คดีเว็บพนันออนไลน์ที่มีชื่อของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ถูกนำไปเชื่อมโยง ภายหลังหน่วยงานตำรวจต้องการขอเรื่องจาก ป.ป.ช. กลับมาดูแลเอง ปรากฏว่า ป.ป.ช. มีมติรับไว้พิจารณาถ้าตามหลักการ ป.ป.ช. ก็ตรวจสอบประเด็นนี้ได้อยู่แล้ว การที่ตำรวจ ปปป.ไม่ได้รับเรื่องกลับมาดูเอง จะมีผลเสียไหม