ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จำคุก “แยม” อดีตนักแสดง 5 ปี - สามี 20 ปี คดีเว็บพนันฯ

อาชญากรรม
18 ก.ค. 67
18:29
24,410
Logo Thai PBS
จำคุก “แยม” อดีตนักแสดง 5 ปี - สามี 20 ปี คดีเว็บพนันฯ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ศาลสั่งจำคุก “แยม” อดีตนักแสดง 5 ปี ส่วนสามีโดน 20 ปี ยกฟ้อง 1 คน หลบหนีไม่มาศาล 2 คน คดีเว็บพนันและฟอกเงิน

วันนี้ (18 ก.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญา มีคำพิพากษาในคดีเว็บพนันออนไลน์และคดีฟอกเงิน ที่มี น.ส.ธมลพรรณ์ หรือแยม อดีตนักแสดงละครย้อนยุค และสามี พร้อมพวกรวม 12 คน ประกอบด้วย นายเชษฐ์ชัย, นายภูมิพัฒน์ หรืออั้ม สามีของ น.ส.ธมลพรรณ์, นางสุดใจ, นายนฤพล, นายอาทิตย์ หรือบัง, นายปกรณ์, น.ส.ธมลพรรณ์, นายฐิติวัฒน์, นายปิตุพงศ์, นายวรวุฒน์, นายกิตติภพ และ น.ส.พลอยณิศา

จำเลยทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันเพื่อประสงค์แห่งการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งรูปภาพ ภาพโฆษณา รูปถ่ายฯ หรือสิ่งอื่นใดอันลามกฯ, ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อฯ โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันฯ, สมคบฯ เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ และร่วมกันฟอกเงิน รวม 4 ข้อหา

อัยการโจทก์ ระบุฟ้องความผิดพวกจำเลย สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 15 พ.ค.– 1 ก.ย.2565 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-8 กับพวก ได้บังอาจร่วมกันฟอกเงิน โดยการแบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งนายภูวดล พวกของจำเลย ที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้โอนเงินซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดฯ โดยมีวงเงินรวมกันมีมูลค่าตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน และเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้ ได้มีการโอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ใช้ชื่อบัญชีพวกของจำเลย ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ไปยังบัญชีเงินฝาก ชื่อบัญชีนายปกรณ์ จำเลยที่ 6 จำนวน 46 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 39.6 ล้านบาท
อันเป็นการโอน รับโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือเพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริง การได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันเป็นการร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายสมดังเจตนาของจำเลยทั้งแปดกับพวกตามที่ได้สมคบกันดังกล่าว

ต่อมาระหว่างวันที่ 18 พ.ค.-22 ก.ย.2565 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-8 กับพวกได้ร่วมกันฟอกเงิน โดยการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยจำเลยที่ 1 ได้เบิกถอนเงินซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดฯ จากบัญชีเงินฝากธนาคาร ชื่อบัญชีนายปกรณ์ จำเลยที่ 6 จำนวน 25 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 350.4 ล้านบาทเศษ อันเป็นการโอน รับโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือเพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริง

ทั้งนี้ จำเลยให้การปฏิเสธ โดยเบิกตัวจำเลยที่ 1-8 จากเรือนจำ ส่วนจำเลยที่ 9 - 12 ได้รับการประกันตัว โดยวันนี้ (18 ก.ค.) จำเลยที่ 9-10 มาศาล ส่วนจำเลยที่ 11-12 หลบหนีไม่มาศาล

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานที่ทั้ง 2 ฝ่ายนำสืบหักล้างแล้ว พิพากษาจำคุกจำเลย โดยลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 รวม 12 ปี 21 เดือน, จำเลยที่ 2 จำคุก 20 ปี (สามี น.ส.ธมลพรรณ์), จำเลยที่ 3-6 จำคุกคนละ 2 ปี 4 เดือน, จำเลยที่ 7 จำคุก 5 ปี (น.ส.ธมลพรรณ์), จำเลยที่ 8 จำคุกรวม 12 ปี 18 เดือน, จำเลยที่ 9 พิพากษายกฟ้อง และจำเลยที่ 10 จำคุก 4 เดือนปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญามีกำหนด 2 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง