การเยือนไต้หวันของ ส.ส.-ส.ว. ของสภาสหรัฐฯ ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เชื่อกันว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง จีน-ไต้หวัน-สหรัฐฯ อาจรุนแรงมากขึ้น เรื่องนี้ ศ.สุรชัย ศิริไกร คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ มองว่า เป็นแผนของสหรัฐฯที่ต้องการยั่วยุจีนให้มีปฏิกิริยาตอบโต้โดยใช้กำลังกับไต้หวัน เพื่อให้จีนเสียภาพพจน์ และจะสร้างความเสียหายให้กับจีนอย่างมาก ซึ่งจีนรู้เรื่องนี้ดี และไม่เดินเกมตาม
การซ้อมรบทางอากาศไทย-จีน ซึ่งจะมีขึ้นสัปดาห์หน้า ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่าง สหรัฐฯ-ไต้หวัน-จีน นั้น รศ.ปณิธาน วัฒนายากร ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความมั่นคง มองว่า แผนซ้อมรบนี้ ถูกกำหนดไว้นานแล้ว แต่ก็อาจมีการปรับแผนลดระดับการซ้อมรบ เช่น เน้นเชิงรับ มากกว่าเชิงรุก อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่า หากเลี่ยงซ้อมรบช่วงเวลานี้ได้ก็จะเหมาะสม
การซ้อมรบของกองทัพจีนจากเหตุความไม่พอใจ กรณีการเยือนไต้หวันของ “แนนซี เพโลซี” ล่าสุด ทางการจีนประกาศที่จะซ้อมรบต่อเนื่องโดยขยับพื้นที่เข้าใกล้คราบสมุทรเกาหลี และยังฝึกซ้อมสู้กับเรือดำน้ำ ซึ่งมองกันว่า เตรียมรบกับสหรัฐฯ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เชื่อว่า จีนต้องยกระดับความเข้มข้นอีก ล่าสุด การซ้อมรบในทะเลเหลือง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากลัวคือ “กระสุนนัดแรก” แต่หากมีการคุยทางลับของสหรัฐฯ หรือชาติอื่น ๆ ที่เข้ามาพูดจา ก็น่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง
การเยือนไต้หวันของ “แนนซี เพโลซี” ประธานสภาผู้แทนราษฏร สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับจีน จนมีการซ้อมรบอย่างไม่เคยมีมาก่อน เรื่องนี้ รศ.ปิติ ศรีแสงนาม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ มองว่า หากระยะยาวจะเข้าทางจีนในการรวมไต้หวัน และเชื่อว่าอนาคต หากสหรัฐฯ ไม่มีผลประโยชน์ในไต้หวัน ก็คงไม่อุ้มเหมือนทุกวันนี้อย่างแน่นอน
วันที่ 2 ของการซ้อมรบของจีนบริเวณเกาะไต้หวัน หลัง “แนนซี พาโลซี” ปธ.สภาผู้แทนราษฏร สหรัฐฯ เสร็จสิ้นภารกิจเยือนไต้หวัน รศ.วรศักดิ์ มหัทธโนบล อดีต ผอ.ศูนย์จีนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ สหรัฐฯ พยามยั่วยุจีน เพื่อให้ใช้กำลังกับไต้หวัน แต่จีนได้ซ้อมรบของจีน เพียงในกรอบ เพื่อแสดงให้เห็นว่า จีนพร้อมรบกับสหรัฐฯ
การเยือนไต้หวันของ “แนนซี เพโลซี” ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ รศ.ปณิธาน วัฒนายากร ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความมั่นคง มองว่า เป็นความพยายามของสหรัฐฯ ที่ต้องการจัดระเบียบโลกโดยจีนเป็นเป้าหมาย มิฉะนั้นจะดำเนินการยากลำบากในอนาคต อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคงไม่เกิดสงครามสหรัฐฯ-จีน แต่สำหรับไต้หวัน คงถูกมาตรการทางการค้าจากจีนมากขึ้น