"สมเกียรติ" ประธานทีดีอาร์ไอ ห่วงรัฐบาลผุดบ่อนกาสิโนในไทย ไม่ชัดเจนแนวทางดำเนินการผลได้-เสียที่ไทยได้รับ แนะรัฐบาลทบทวนโครงการ เริ่มจากศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ควรระบุจำนวนใบอนุญาตล่วงหน้า เปิดประมูลแบบแข่งขันแทนการใช้วิธีแบบประกวดนางาม โปร่งใสกว่า
มีข้อสังเกตว่า รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร การสื่อสารจากนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ก่อนหน้านี้ บ่งบอกว่าจะผลักดันกฎหมายให้ได้ภายในสิ้นปี "กาสิโน" บางความคิดเห็นสื่อให้เห็นว่าคือ สถานที่ฟอกเงิน ซึ่งจะทำลายกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อย่างชนิดที่เรียกว่า “กู่ไม่กลับเลย”
จากกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินหน้าผลักดันนโยบายจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เป็นหนึ่งในนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ มีการอ้างอิงประโยชน์จากการผลักดันกฎหมาย ขณะเดียวกัน ก็มีหลายฝ่ายสะท้อนข้อห่วงใย วัดข้อดี-ข้อเสีย ดึงเม็ดเงิน ดึงการท่องเที่ยว สร้างงาน ก็จริงแต่จะได้คุ้มเสียไหม ระบบราชการของไทยพร้อมรองรับสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้หรือไม่ พูดคุยกับ ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.รังสิต และอดีต ป.ป.ช.
ในบรรดาผู้สังเกตการณ์ตอนนี้ ต้องถกเถียงกันเรื่องความคุ้มค่าและผลกระทบ ที่จะตามมาจากโครงการสถานบันเทิงครบวงจร แต่ในมิติทางการเมือง จะส่งผลดีเพิ่มคะแนนนิยมให้รัฐบาล เหมือนเมกะโปรเจ็กต์ในอดีตที่พวกเขาเคยทำ หรือจะกลายเป็นโครงการที่บั่นทอนความนิยมของรัฐบาลมากกว่ากัน
ท่ามกลางการศึกษา ข้อดีข้อเสีย เพื่อนำมาพิจารณา พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ล่าสุดประเด็นนี้กำลังถูกจับตาอีกครั้ง หลังราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย มีมติสมาคมจะทำ Entertainment Complex นอกจากสนามม้า ภายในยังมีกาสิโน ถ้ามองในแง่ความคุ้มค่า ไทยจะได้หรือเสียมากกว่ากัน
แม้ยังไม่ปักหมุดแน่ชัดว่า "สถานบันเทิงครบวงจร" หรือ "เอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์" ที่รัฐบาลจะผลักดัน จะตั้งอยู่ที่ใด แต่วันนี้ดูเหมือนแสง จะส่องชัดไปยังท่าเรือคลองเตย แต่ถ้าฟังเสียงสะท้อนจากคนในพื้นที่บางส่วน และผู้เกี่ยวข้อง หลายคนก็ยังคงแสดงความเป็นห่วงทั้งมิติความคุ้มค่า รวมไปถึงปัญหาสังคมที่อาจตามมา "ได้คุ้มเสียหรือไม่ ?"