ที่ผ่านมารัฐโอนเงินหมื่นให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแล้วกว่า 7.4 ล้านคน โดยรัฐเชื่อว่าโครงการนี้จะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ แต่นักวิชาการมองว่าเกิดแค่ "ลมพัดผ่าน" จังหวะพอดี ร้านสะดวกซื้อชื่อดังเริ่มให้สแกนจ่ายผ่านแอปฯ ธนาคาร
จ่ายเงิน 10,000 บาท ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ วันที่ 3 คึกคัก ผู้รับเงินบางส่วนเตรียมนำเงินไปใช้หนี้ ขณะที่คลังเผย 26 ก.ย.โอนเงินไม่สำเร็จ 141,062 คน รวม 2 วัน 190,445 คน แนะผู้มีสิทธิเร่งผูกบัญชีพร้อมเพย์ แก้ไขบัญชี ภายใน 18 ต.ค.นี้
ชัดเจนแล้ว สำหรับกลุ่มเปราะบางจะได้รับเงินหมื่นจากรัฐบาล วันที่ 25-30 ก.ย.นี้ โดยการโอนเงินเข้าพร้อมเพย์ เลขบัตรประชาชน และสามารถถอนเป็น "เงินสด" ได้ ส่วนกลุ่ม 2 อาจยังไม่ได้ภายในปีนี้ เพราะยังไม่ได้ยอดผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติโครงการเพื่อจัดสรรงบประมาณ
นโยบายเรือธง ของรัฐบาลเศรษฐา เริ่มวันแรก แอป "ทางรัฐ" ก็เกิดปัญหา ติด ๆ ขัด ๆ จนแอปล่มในที่สุด สารพัน "หัวจะปวด" กับการลงทะเบียนผ่านแอป "ทางรัฐ" นี่ยังไม่นับรวมวันแจกเงิน ที่ไม่แน่ชัดว่าประชาชน จะได้เงินดิจิทัลเดือนไหน ? หรือมันจะเกี่ยวข้องกับที่มาของเงิน ? มาฟัง ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส วิเคราะห์ ในรายการ มุมการเมือง
วันนี้ (31 ก.ค. 67) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง กล่าวถึงกรณีที่แอปพลิเคชันทางรัฐล่ม ประชาชนไม่สามารถเข้าลงทะเบียนยืนยันตัวตนได้ว่า ระบบไม่ได้ล่ม หรือปิดระบบเพราะมีปัญหา แต่จะมีการปิด เพื่ออัปเดตเวอร์ชัน หรือรีเซตระบบ ในคืนนี้ (31 ก.ค. 67) เวลา 19.00 - 22.00น. เพื่อเชื่อมต่อกับระบบทะเบียนราษฎร์ เลขบัตรประชาชน และหน้าตาของผู้ลงทะเบียน ว่าตรงกันหรือไม่ และจะเปิดให้ประชาชน เริ่มลงทะเบียนรับสิทธิ์ พรุ่งนี้ (1 ส.ค. 67) เวลา 08.00 น.
ก่อนการประชุมพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม มีความเคลื่อนไหวจากทางฝ่ายค้าน ที่นำร่างกฎหมายนี่มาถกเถียงกันในที่ประชุมวิปก่อนแล้ว เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ 2 ประเด็นที่ฝ่ายค้านเกาะติดเรื่อยมา นั่นคือการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ และการผลักดันโครงการเงินดิจิทัล ซึ่งกฎหมายที่กำลังจะพิจารณากันก็เกี่ยวกับ 2 เรื่องนี้
เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช. กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี จะแถลงความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ด้วยตัวเอง วันที่ 24 กรกฎาคม โดยจะทราบถึงวัน-เวลาที่ประชาชน และร้านค้าลงทะเบียน รวมถึงสินค้าที่สามารถซื้อได้ และยังย้ำถึงความจำเป็นที่รัฐบาล ต้องเตรียมแผนรองรับ หากเกิดกรณีฉุกเฉิน
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ภายหลังจากที่มีการประชุมหารือไปหลายรอบสุดท้ายได้ข้อสรุปเป็นหลักการ ของโครงการเงื่อนไขผู้ที่ได้รับ 50 ล้านคน อายุ 16 ปีขึ้นไป มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 840,000 บาท มีเงินฝากทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท และจะต้องมีการลงทะเบียนผ่าน Application บน Smartphone ส่วนการใช้จ่าย จะใช้จ่ายในเขตอำเภอตามทะเบียนบ้าน และใช้ในร้านค้าปลีกขนาดเล็ก โดยรายละเอียดกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นผู้กำหนดว่าร้านค้าขนาดเล็กหมายถึงร้านใดบ้าง และประชาชนมีกรอบนี้เวลาการใช้จ่ายเงิน 10,000 บาทภายใน 6 เดือน เพื่อให้จบในโครงการ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยืนยันแหล่งที่มาของเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะเริ่มต้นโครงการในปีนี้ ได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากต้องการดูแผนงาน ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ ติดตามข่าวสำคัญ สถานการณ์เด่นในรอบวันกับ #ThaiPBS ได้ที่ www.thaipbs.or.th/news
รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน เปิดแถลงข่าวความชัดเจนโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่าจะถึงมือประชาชน 50 ล้านคน ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ด้วยแหล่งที่มางบประมาณ 3 แหล่ง คือดึงจากงบปี 67 จำนวน 175,000 ล้าน งบปี 68 อีก 152,700 ล้าน และ ธ.ก.ส. 172,300 ล้านบาท ยังคงเงื่อนไขคนรับสิทธิ์ ร้านสะดวกซื้อร่วมได้ โดยประชาชนจะใช้จ่ายเงินดิจิทัลผ่านช่องทาง "ซูเปอร์แอปฯ" ที่รัฐบาลจัดทำขึ้นใหม่ การแบ่งที่มาของเงินเป็น 3 กอง เหมาะสมหรือไม่ โดยเฉพาะการใช้เงินจาก ธ.ก.ส. และจะมีปัญหาในเรื่องของการบริหารงบประมาณไหม พูดคุยกับ รศ. อนุสรณ์ ธรรมใจ ผอ.ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลฯ ม.หอการค้าไทย
ความชัดเจนเรื่องแหล่งที่มาของเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังนายกฯ แถลงแหล่งเงินทำโครงการ Digital Wallet วงเงิน 5 แสนล้านบาท ดึงจากงบปี 67 จำนวน 175,000 ล้าน งบปี 68 อีก 152,700 ล้าน และ ธ.ก.ส. 172,300 ล้านบาท ยังคงเงื่อนไขคนรับสิทธิ์ ร้านสะดวกซื้อร่วมได้ พูดคุยกับ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงจากการใช้เงินงบประมาณลักษณะนี้ และแนวโน้มกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
หลังจากรัฐบาลเคาะเดินหน้าแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทโดยจะเริ่มไตรมาส 4 ให้กับ 50 ล้านคนที่จะได้สิทธิ โดยจะพัฒนาระบบ Super App ของรัฐบาลให้สามารถใช้จ่ายได้กับธนาคารอื่น ๆ ในลักษณะ Open Loop แต่ก็มีคำถามว่าทำไมรัฐบาลไม่ใช้แอปฯ เป๋าตัง ที่มีอยู่แล้ว มาใช้ในการแจงเงินดิจิทัลวอลเล็ต พูดคุยกับ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ความชัดเจนเรื่องแหล่งที่มาของเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังนายกฯ แถลงแหล่งเงินทำโครงการ Digital Wallet วงเงิน 5 แสนล้านบาท ดึงจากงบปี 67 จำนวน 175,000 ล้าน งบปี 68 อีก 152,700 ล้าน และ ธ.ก.ส. 172,300 ล้านบาท ยังคงเงื่อนไขคนรับสิทธิ์ ร้านสะดวกซื้อร่วมได้ ด้าน ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวภายหลังจากนายกฯ แถลงนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต บอกว่า อยากฝากรัฐบาล เมื่อยืนยันโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะได้ใช้ในไตรมาส 4 ไม่เลื่อนแน่นอน อยากเห็นแผนงานทั้งหมด
Thai PBS ชวนมาวิเคราะห์ "การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต" ที่นายกฯ เศรษฐา จะเป็นประธานนั่งหัวโต๊ะ เคาะสรุปรายละเอียดโครงการ และที่มาของเงิน หลังตั้งคณะทำงานศึกษาทบทวนตามข้อเสนอแนะจาก ปปช. และแบงก์ชาติ ความเป็นไปได้อย่างไหน ที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นมากที่สุด
หลังจากเลื่อนมาหลายครั้ง มีการยืนยันว่าต่อจากนี้ "รัฐบาล" จะไม่เลื่อนแล้ว สำหรับโครงการ "เงินดิจิทัลวอลเล็ต" จะประกาศหลักเกณฑ์รายละเอียดทั้งหมด ภายในวันที่ 10 เม.ย.นี้ แต่ก็ยังมีคำถามใหญ่ ว่าแหล่งเงินของโครงการนี้จะเอาจากไหน 500,000 ล้านบาท แล้วคนไทยจะได้อะไรจากเรื่องนี้ ? มากกว่าการแจกเงิน 10,000 บาท