น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายรัฐมนตรี ได้เดินชมนิทรรศการการแสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ โอทอป พร้อมเป็นประธานเปิดโครงการฝากทูตไปขาย เนื่องในโอกาสการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ประจำปี 2555 และระหว่างกล่าวเปิดประชุม นายกรัฐมนตรี กล่าวเน้นย้ำให้เอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ได้รับทราบถึงการดำเนินนโยบายต่างประเทศของรัฐบาล ด้วยการเดินหน้าเชื่อมความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อรองรับวิกฤตที่หลากหลาย โดยเฉพาะวิกฤตการณ์ยูโรโซนแล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ เป็นผู้แทนประเทศไทยที่มีความรู้ความเข้าใจในตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นสื่อกลางให้ผู้ซื้อและผู้ขาย ได้พบปะซื้อขายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ หรือ โอทอปของไทยได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจชาติแล้ว ยังมีภาระกิจสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลได้อย่างชัดเจน
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการยกร่างญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ได้มอบหมายให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่ปรึกษาพรรคเป็นคณะทำงาน เพื่อรวบรวมข้อมูลแล้ว แต่ในรายละเอียดคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง และตามกรอบโดยกรอบเวลาของการประชุมสมัยสามัญทั่วไปยังมีโอกาสยื่นญัตติได้จนถึงเดือนธันวาคม ทั้งนี้เห็นว่าควรเปิดพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ประจำปี 2556 ให้แล้วเสร็จและให้โอกาสรัฐบาลได้แถลงผลงานครบรอบ 1 ปีก่อน และยืนยันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นไปตามข้อมูลและความจริงที่เกิดขึ้น
สอดคล้องกับผลการประชุมวิปรัฐบาล ซึ่งนายอุดมเดช รัตนเสถียร ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เห็นว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ สภาผู้แทนราษฎรควรเดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญ 10 ฉบับ และ พิจารณาให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการยื่นญัตติและอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พร้อมยอมรับว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ฝ่ายค้านจะมองว่า รัฐบาลสอบตกในการบริหารราชการแผ่นดิน