ผู้ศาสนาชี้หน่วยงานความมั่นคงประเมินสถานการณ์ช่วงรอมฎอนผิดพลาด
การคาดการณ์ว่าในเดือนรอมฎอน กลุ่มผู้ก่อเหตุอาจจะสร้างความรุนแรงน้อยกว่าปกติ ทำให้ฝ่ายความมั่นคงที่เคยทำงานในเชิงรุก กลับมาเป็นฝ่ายตั้งรับ จึงเกิดช่องว่างให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ มีช่องทางสร้างสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น
ภาพรถยนต์กระบะต้องสัยที่ถูกฆ่าชิงทรัพย์ และคาดว่าจะนำไปประกอบระเบิด ถูกหน่วยงานความมั่นคง จ.ปัตตานี นำไปแจกจ่ายตามด่านตรวจต่างๆ รอบเมือง เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัย และสกัดกั้นไม่ให้รถยนต์ทั้งหมด เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงสุดท้ายของเดือนรอมฎอน
เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นใน 3 สับดาห์แรกของเดือนรอมฎอน มากกว่า 70 ครั้ง นิมุ มะกาเจ ผู้นำศาสนา เห็นว่า เกิดจากการประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ ที่อาจมองว่า เดือนถือศีลอด ผู้ก่อความไม่สงบอาจก่อเหตุรุนแรงน้อย ทำให้การรักษาความปลอดภัยไม่รัดกุม จึงเกิดช่องว่าง จนผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุได้ง่าย
แม้หน่วยงานด้านความมั่นคง จะปรับแผนจากการตั้งรับมาเป็นเชิงรุก เช่น การตั้งด่านตรวจที่เข้มงวด หรือการจัดกำลังคุ้มกันสถานที่สำคัญ แต่ผู้นำศาสนา เห็นว่า ยังไม่สามารถป้องกันเหตุรุนแรงได้ถาวร ซึ่งแนวทางแก้ปัญหาที่แท้จริง คือ รัฐจะต้องขจัดเงื่อนไข และสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น
สถิติความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ต้นปี 2547 จนถึงเดือนรอมฎอนปี 2555 มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากกว่า 13,000 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตเกือบ 6,000 คน และ บาดเจ็บเกือบ 10,000 คน ส่งผลให้ชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นว่า แนวทางแก้ปัญหาที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะยุติความสูญเสีย