ดีเอสไอยืนยันมีหลักฐานเอาผิด กรณีทุจริตครุภัณฑ์อาชีวศึกษา
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยันสามารถเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องกรณีทุจริตโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ภายใต้งบประมาณไทยเข้มแข็ง 5,300 ล้านบาทได้ หลังพบข้อมูลหลักฐาน ที่ก่อให้เกิดความเสียหายในส่วนราชการอย่างชัดเจน
นายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยตัวแทนนักศึกษาอาชีวะ มอบหลักฐานผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการทุจริตและประพฤติมิชอบโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 หรือ เอสพี 2 จำนวน 5,200 ล้านบาท ให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อตรวจสอบเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง โดยผลการสอบสวนของคณะกรรมการ สรุปตรงกันว่าการจัดซื้อครุภัณฑ์ตามโครงการดังกล่าวไม่โปร่งใส และชี้มูลได้ว่า นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต ทำให้ราชการเกิดความเสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงไปแล้ว จึงมามอบหลักฐานผลการสอบสวนทั้งหมดให้ดีเอสไอนำไปตรวจสอบเพื่อเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษบอกว่า จะเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ทันที เนื่องจากเป็นคดีที่สร้างความเสียหาย สูญเสียงบประมาณจำนวนมาก โดยจะเรียกประชุมสำนักคดีพิเศษ 2 มาดูแลโดยเฉพาะ ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง เพราะข้อมูลหลักฐานต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ภายใต้งบประมาณ เอสพี 2 จำนวน 5,300 ล้านบาทนั้น เกิดขึ้นสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดซื้อครุภัณฑ์เพื่อการเรียนการสอนให้กับสถานศึกษาอาชีวะทั่วประเทศ แต่กลับพบว่าครุภัณฑ์ที่แต่ละสถานศึกษาได้รับนั้น มีความผิดปกติ เช่น ไม่ตรงตามคุณลักษณะที่กำหนดไว้ โดยวิทยาลัยต่างๆ ได้ครุภัณฑ์ไม่ตรงกับสาขาที่เปิดสอน รวมถึงครุภัณฑ์ที่ได้รับไม่ได้คุณภาพ และมีราคาแพงเกินจริง
