หลายจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม หลังฝนยังตกต่อเนื่อง
ทหารกองพลพัฒนาที่ 3 ค่ายบรมไตรโลกนาถ นำเรือท้องแบน ติดเครื่องยนต์ เข้าช่วยชาวบ้าน ตำบลพรหมพิราม และ ตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก สำหรับใช้สัญจรออกจากพื้นที่ หลังสะพานข้ามแม่น้ำยมสายเก่า ระหว่าง บ้านวังน้ำเย็น ตำบลพรหมพิราบ กับ บ้านใหม่สำราญ ตำบลท่าช้าง ถูกกระแสที่ไหลเชี่ยวกัดเซาะจนขาด
ส่วนชาวตำบลสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ช่วยกันนำวัสดุที่มีอยู่ในหมู่บ้าน และ สังกระสีเก่า มาสร้างที่พักชั่วคราวริมถนนภายในหมู่บ้านเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย หลังน้ำจากแม่น้ำยมที่ไหลมาจากจังหวัดพิษณุโลก มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ ท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ลุ่มแล้ว โดยชาวบ้านคาดการณ์ว่า น้ำท่วมอาจกินเวลายาวนานประมาณ 2 - 3 เดือน
ขณะที่สถานการณ์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า ขณะนี้น้ำในลำน้ำชีเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านใน อ.บ้านเขว้า จัตุรัส และ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านบางส่วนต้องขนข้าวของหนีน้ำขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหาย นอกจากนี้กระแสน้ำยังพัดซากต้นไม้ และ เศษสวะ มาติดตามคอสะพานทำให้น้ำไหลไม่สะดวกจนเอ่อล้นท่วมทางเข้าหมู่บ้านหลายสายในอำเภอจัตุรัส ทำให้ อบต.หลายแห่งต้องระดมเครื่องจักรกำจัดเศษสวะ เพื่อเปิดทางน้ำ
ส่วนที่จังหวัดกำแพงเพชรสวนกล้วยไข่หักโค่นเสียหายกว่า 500 ต้น ขณะที่พื้นที่ต่อเนื่องลงมา ซึ่งจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ขณะนี้ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากน้ำในแม่น้ำสายหลักและสายรองหลายสายเริ่มมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่สิงห์บุรี และอ่างทอง
ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังเพิ่มระดับขึ้นต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง วัดได้ 7.19 เมตร ส่วนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมตรวจสอบการทำผนังกั้นริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะบริเวณโบราณสถาน หลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนว่าในวันที่ 14-17 ก.ย.นี้จะมีฝนตกหนัก