ภาคีต้านทุจริตฯเรียกร้องรัฐบาลตรวจสอบกรณีไซ่ฟ่อนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท
คณะอนุกรรมาธิการการ ด้านการเก็บรายได้ของแผ่นดิน ในคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน วุฒิสภา เชิญ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะอดีตเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.
เข้าชี้แจงประเด็นที่อ้างถึงนักการเมืองโยกย้ายถ่ายเทเงิน หรือ ไซฟ่อนเงิน 16,000 ล้านบาทที่ฮ่องกง ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งได้มาจากการทุจริตงบประมาณช่วยเหลือน้ำท่วมปี 2554 ว่าเป็นเพียงการรับทราบจากข่าวของสื่อมวลชน และไม่เกี่ยวข้องกับขอบเขตอำนาจของ ป.ป.ท.ที่กำหนดให้ตรวจสอบข้าราชการระดับ 8 ลงไป
ซึ่งได้ทำหนังสือชี้แจงถึงปลัดกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับกรณีนี้แล้ว แต่พร้อมตรวจสอบเรื่องนี้หากได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล
ขณะที่วันนี้ (16 ต.ค.)นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต้านการทุจริตคอรัปชั่นแห่งชาติ หรือ ภชต. ออกมาตอบโต้ฝ่ายรัฐบาล ที่ออกมาปฎิเสธว่ากรณีไซฟ่อนเงินเป็น 1ในแผนล้มรัฐบาลว่า รัฐบาลควรตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนออกมาปฎิเสธ โดยเฉพาะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีซึ่งเลขาธิการ ภตช.อ้างว่าเคยให้ข้อมูลกับคณะกรรมมาธิการวุฒิสภาชุดหนึ่ง เกี่ยวกับกรณีไซฟ่อนเงินที่เยาวราชว่ามีอยู่จริง จึงต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการที่มีเครือข่ายภาคประชาชนมากกว่ากึ่งหนึ่งขึ้นมาตรวจสอบกรณีนี้
เลขาธิการ ภชต. ยืนยันว่า ข้อมูลที่ได้มีความน่าเชื่อถือเพราะเป็นข้อมูลที่ได้จากการประชุมระหว่าง ป.ป.ช.ฮ่องกง และภาคีเครือข่ายต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น หรือ ไอแคค ของฮ่องกง ซึ่งมีสมาชิกเป็นภาคประชาชนและเอกชน ที่ประกอบไปด้วยสมาคมธนาคาร และนักธุรกิจที่เคยกระทำผิดในลักษณะเดียวกันมาก่อน ขณะเดียวกันเชื่อว่าข้อมูลที่ ภชต.มีอยู่เพียงพอที่จะเชื่อมโยงกับผู้กระทำผิดได้
นายมงคลกิตติ์ ยังระบุว่า หากรัฐบาลไม่ยอมตรวจสอบเรื่องนี้ ภาคีเครือข่ายฯก็ยังจะตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบเอง โดยระหว่างนี้ ยังคงประสานขอข้อมูลเพิ่มจากเครือข่ายในฮ่องกง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยเฉพาะนักการเมือง 30 คน และกลุ่มธุรกิจ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการไซฟ่อนเงิน
ส่วนสาเหตุที่ ภชต.ไม่ส่งข้อมูลให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. รวมถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต เพราะเกรงว่าอาจถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซง