กลุ่มมิจฉาชีพตระเวนเรียกเก็บเงินตามหมู่บ้านในจ.กระบี่ อ้างช่วยวิ่งเต้นเรียกร้องที่ดิน
สวนปาล์มน้ำมัน ที่หมดสัมปทาน เนื้อที่ กว่า 1000 ไร่ ของห้างหุ้นส่วนจำกัดกระบี่รวมภัณฑ์ บริเวณบ้านคลองหวายเล็ก ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ถูกแปลสภาพกลาย เป็นชุมชนขนาดใหญ่ หลังกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน ทยอยก่อสร้างบ้านพักถาวร ไปแล้ว กว่า 400 หลัง จากชาวบ้านที่เดินทางไปรวมลงชื่อ ตลอด 6 เดือน ที่ผ่านมา กว่า 8,000 คน มีการสร้างถนนสายหลักแบ่งเป็นโซน และเปิดร้านค้าให้บริการ
จำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการจัดแบ่งเนื้อที่สำหรับก่อสร้างบ้านพักกันเอง เพียงครอบครัวละ 1 ไร่ ระหว่างรอรัฐบาล จัดสรรที่ดินในแปลงที่หมดสัมปทานของบริษัทอื่น ให้ครอบครัวละ 15 ไร่ ตามที่ร้องขอ
การเดินทางลงไปเจรจาของนายประยุทธ หล่อสุวรรณศิริ รองอธิบดีกรมป่าไม้ และรับปากว่า จะนำข้อเรียกร้องที่ดินทำกิน เสนอต่อรัฐบาล เมื่อ 2 เดือนก่อน แม้จะระบุชัดว่า เบื้องต้นจะมีการจัดสรรให้กับคนจน เฉพาะจังหวัดกระบี่ เจ้าของพื้นที่ ตาม มติ คณะรัฐมนตรี ปี 2546 ก่อนจะจัดสรรให้จังหวัดอื่น
แต่ขณะนี้พบว่า มีชาวบ้านจากทั่วทุกภาค รวมถึงพี่น้อง สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องการมีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ทยอยเดินทางไปร่วมปักหลัก และบางส่วนไปเพราะถูกกลุ่มมิจฉาชีพ ตระเวนไปตามหมู่บ้าน ด้วยการเรียกเก็บเงิน รายละ 300 บาท เพื่อแลกกับการจัดแบ่งที่ดินจำนวน 15 ไร่ ซึ่งแกนนำกลุ่มยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ผู้อำนวยการ สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 จ.กระบี่ เปิดเผยถึงความคืบหน้า ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเสนอรายชื่อ ชาวบ้าน 2,600 คน ซึ่งเป็นตัวเลขเดิมที่ทางกลุ่ม นำมายืนขณะรองอธิบดีกรมป่าไม้ลงพื้นที่ ไปยังกรม และสำเนาเสนอต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัด ช่วยกันพิจารณา โดยพื้นที่หมดสัมปทาน ของ จ.กระบี่ ที่มีอยู่ทั้งหมด 10 แปลง หรือ กว่า 60,000 ไร่ จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ด้วยการนำมาจัดสรรให้กับชาวกระบี่ ที่ยากจนจริงๆ ก่อน และอีกส่วนจะให้เจ้าของสัมปทานเดิม เช่าต่อ
ปี 2546 ชาวบ้านจากหลายจังหวัดของภาคใต้ นับหมื่นคน นัดชุมนุม หน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาผู้ไม่ที่ดินทำกิน หลังตรวจสอบพบว่า พื้นที่ กว่า 130,000 ไร่ ของกรมป่าไม้ ที่อนุญาตให้กับเอกชน หมดลง จนมีมติคณะรัฐมนตรี ให้ยกเลิก สัมปทานทั้งหมด นำมาจัดสรรให้คนจน แต่ยังไม่มีความคืบหน้า