วันนี้ (23 เม.ย.2568) อดีตข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งอ้างว่ามีความใกล้ชิดกับข้าราชการระดับสูงของ สตง.และยังเป็น 1 ใน 6 คณะกรรมการ สตง. ที่เห็นความผิดปกติอันเข้าข่ายการทุจริตในโครงการก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ เดินทางเข้าพบคณะทำงานในคดี สตง. พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะผู้ประสานงาน
นำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอและเสียงบันทึกการสนทนา ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พิจารณาสืบสวนและตรวจสอบ โดยพยานระบุจากหลักฐานเชื่อว่าจะมีผู้เกี่ยวข้องประมาณ 10 คน
ด้านนายปานเทพ เปิดเผยว่า การตรวจสอบเบื้องต้นพบข้อสงสัยหลายประการ ตั้งแต่การเปลี่ยนสถานที่ตั้งจาก จ.ปทุมธานี เข้ามาพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เขตจตุจักร และมีการออกแบบอาคารใหม่ รวมถึงการแก้แบบหลายครั้ง ไปจนถึงการแต่งตั้งจัดหาบริษัทควบคุมงานการก่อสร้างและการตั้งงบประมาณ การจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ
อ่านข่าว : ตร.สอบพยานกว่า 140 ปาก เร่งขอหลักฐานเกี่ยวข้องตึก สตง.ถล่ม
ขณะที่วันนี้ (23 เม.ย.) มีการประชุมคณะกรรมาธิการ กิจการองค์กรอิสระฯ วุฒิสภา เพื่อสอบข้อเท็จจริงเหตุอาคาร สตง.ถล่ม จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ โดยมีผู้แทนกิจการร่วมค้า "พีเค-ดับบลิว" ตัวแทนบริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค และบริษัท ไมนฮาร์ท
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ประธานกรรมาธิการฯ ระบุว่า ทั้ง 3 บริษัททำหน้าที่ตามสัญญาและเงื่อนไขของ สตง. โดยเฉพาะวัตถุประสงค์ที่แจ้งจำเป็นต้องใช้งานทุกตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การออกแบบ มีการประสานงานกับกรมโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงภาคเอกชนบางส่วน ยืนยันว่ารองรับการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวแล้ว การแก้แบบหรือโครงสร้าง ไม่ได้อยู่ในโครงสร้างหลัก และเป็นไปตามความเหมาะสม กฎหมายและมาตรฐานสากล รวมถึงการแก้แบบปล่องลิฟต์ เป็นการปรับลด-เพิ่มเติมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยไม่มีคำยืนยันว่าการแก้แบบปล่องลิฟต์เป็นสาเหตุของการถล่มหรือไม่
มีรายงานว่า หลังชี้แจงแล้วเสร็จ ตัวแทนของบริษัทไมนฮาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทผู้ออกแบบโครงสร้างอาคาร สตง. ยืนยันว่าการออกแบบเป็นไปตามหลักวิศวกรรม เหตุถล่มไม่ได้เกิดจากการออกแบบ
อ่านข่าว