ชาวนาในตำบลคอนสายอำเภอกู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี ตัดสินใจซื้อน้ำจากพ่อค้าขายน้ำในราคาคันละ 200 บาท เพื่อนำไปใช้หล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังจะยืนต้นตายหลังต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำจากภาวะฝนทิ้งช่วงโดยภัยแล้งในจังหวัดอุดรธานี ถือว่าหนักที่สุดในรอบ 60 ปี ล่าสุดทางจังหวัดประกาศให้พื้นที่ 12 อำเภอ เป็นเขตพิบัติภัยแล้งแล้ว มีนาข้าวได้รับผลกระทบมากกว่า 2.5 ล้านไร่
ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมาเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา ได้อุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำ ชุดเป่าล้าง และพัฒนาบ่อน้ำบาดาล รวมทั้งรถผลิตน้ำดื่ม เข้าไปช่วยเหลือและบรรเทาความความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ประสบภัย หลังทั้งจังหวัดมีพื้นที่เกษตรกรรมได้รับผลกระทบแล้วกว่า 2 .7 แสน ไร่ ใน 6 อำเภอ
เช่นเดียวกับจังหวัดหนองบัวลำภูฝนที่ทิ้งช่วงมานาน ทำให้นาข้าวในอำเภอนากลาง ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ชาวบ้านต้องเร่งสูบน้ำเข้าแปลงนา เพื่อชะลอความเสียหาย ขณะที่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนอำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ยังคงปล่อยน้ำ 9 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อส่งน้ำไปช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งในจังหวัดพิษณุโลก พิจิตรและนครสวรรค์หลังระดับน้ำในแม่น้ำน่านลดลงอย่างต่อเนื่องทำให้เริ่มประสบปัญหาขาดน้ำอุปโภคบริโภค และ การเกษตร ขณะเดียวกันได้นัดหมาย กลุ่มผู้ใช้น้ำมาร่วมวางแผน การจัดสรรน้ำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ส่วนที่จังหวัดนครสวรรค์ชาวนาหมู่ 6 ตำบลบ้านแดน อำเภอบรรพตพิสัย เริ่มได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ขณะนี้นาข้าวในพื้นที่เริ่มขาดน้ำ เพราะแม่น้ำปิงเริ่มตื้นเขิน ทำให้เกษตรกรหลายคนต้องใช้เงินส่วนตัวในขุดลอกลำน้ำปิง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเข้าที่นาทำให้ต้องเพิ่มต้นทุนมากขึ้น