จีนปรับยุทธศาสตร์ มุ่งลงใต้ขยายบทบาทต่ออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
จีนมียุทธศาสตร์มุ่งลงใต้ และดำเนินนโยบาย Go Global เพื่อการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภายใน และย้ายฐานการผลิตออกไปนอกประเทศ โดยมณฑลยูนนานมีการค้าผ่านทางชายแดน และเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างประเทศในกลุ่ม GMS อื่นๆ กับสาธารณรัฐประชาชนจีน
กลุ่ม GMS มีความร่วมมือในการขยาย และใช้เส้นทางขนส่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อให้การไหลเวียนของสินค้าและบริการให้กว้างขวางและรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นพื้นฐานที่เข้มแข็งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งการสร้างระเบียงเศรษฐกิจ เหนือ-ใต้ ตะวันออก-ตะวันตก และฝั่งใต้ จะช่วยให้การเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ และห่วงโซ่อุปทานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จะช่วยสนับสนุนการเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยช่วงกว่า 2 ทศวรรษกลุ่มประเทศในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจจากการร่วมมือกัน
ความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจจีนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ส่งผลให้จีนมีบทบาทมากยิ่งขึ้นต่อประเทศต่างๆในเขตอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และมีแนวโน้มที่จะพยายามขยายอิทธิพลให้มากยิ่งขึ้นในอนาคต เพื่อช่วงชิงบทบาทผู้นำในพื้นที่จากอเมริกา และญี่ปุ่น โดยเฉพาะหลังจากจีนเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) ในปี 2545 การขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจแบบทุนนิยมของประเทศสังคมนิยม ยังผลให้เกิดการผลักดันการใช้ทรัพยาการธรรมชาติในเขตลุ่มน้ำโขงตอนบนเพิ่มยิ่งขึ้น
ขณะที่ประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ซึ่งจะเป็นศูนย์กลาง และเป็นประตูเชื่อมโยงจีนกับอาเซียนทั้งหมด เพราะแหล่งทรัพยากรและวัตถุดิบที่ใกล้กับจีนมากที่สุด เป็นตลาดการค้าและการลงทุนของจีนขนาดใหญ่ถึง 600 ล้านคน ความตกลงด้านการค้า การค้าบริการและการลงทุนซึ่งมีผลบังคับใช้ระหว่างอาเซียนกับจีนเป็นกลไกส่งเสริมให้การค้าระหว่างอาเซียนกับจีนมีความคล่องตัวและเป็นประโยชน์ร่วมกันยิ่งขึ้น