โพลชี้คนสนใจม็อบขับไล่ รบ. มากกว่าอภิปรายฯ เชื่อไม่สร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ออกสำรวจความคิดเห็นประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศในกลุ่มตัวอย่าง 3,559 คน ต่อกรณีปัญหาในแวดลงการเมืองไทยในปัจจุบันพบว่า "ความซื่อสัตย์ สุจริต" เป็นสิ่งที่ต้องเร่งปลูกฝั่งโดยด่วน เพราะจากการสอบถามว่าปัญหาของนักการเมืองไทยที่ต้องเร่งแก้ไข 5 อันดับแรก ประชาชน ร้อยละ 40.11 เห็นว่า ปัญหาการทุจริต คอร์รัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง เป็นปัญหาแรก ส่วนอันดับอื่น คือ การขาดความสามัคคี การแสวงหาผลประโยชน์ในตนเองและพรรคพวก การใช้อำนาจอิทธิพลและเล่นเกมการเมือง ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตามลำดับ
แต่ประชาชนรวมร้อยละ 49.49 เชื่อว่า ครอบครัว ผู้ปกครองคืออันดับแรกที่จะช่วยสร้างช่วยปลูกฝัง "ความซื่อสัตย์สุจริต" ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยได้ ขณะที่โรงเรียน วัด สถานที่ทำงานและหน่วยงานอื่น จะเป็นหน่วยช่วยเสริมในอันดับต่อไป
สำหรับสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ สำนักวิจัยเอแบคโพล ม.อัสสัมชัญ สำรวจประชาชนในกลุ่มตัวอย่าง 2,172 คนแบบสุ่มเลือกจังหวัดพบว่า การชุมนุมขับไล่รัฐบาลขององค์การพิทักษ์สยามอยู่ในความสนใจของประชาชนมากกว่ากรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือร้อยละ 61.7 ต่อ 38.3
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเปิดอภิปรายครั้งนี้ ฝ่ายค้านจะมีประเด็นใหม่ที่จะซักถามและเปิดเผยต่อสาธารณชน และแม้ผลในเชิงปฏิบัติจะเป็นการตรวจสอบที่เข้มข้น แต่ประชาชนร้อยละ 57.7 เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วจะไมมีเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางการเมือง แต่โดยภาพรวมประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่า การลดความร้อนแรงทางการเมืองของประเทศได้ คือ "ความจริงใจในการแก้ปัญหาฝ่าวิฤตด้วยตัวเอง" ของนายกรัฐมนตรี