ครม.เห็นชอบพิกัดปราสาทพระวิหาร เตรียมยื่นศาลโลก 26 เม.ย.
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีวาการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้เสนอวาระจรให้คณะรัฐมนตรี เพื่อทราบเกี่ยวกับเรื่องพิกัดที่ตั้งปราสาทพระวิหาร ตามที่ทีมทนายได้ร่วมหารือกันเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อเสนอต่อศาลโลกให้ทันวันที่ 26 เมษายนตามกำหนดระยะเวลา ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับพิกัดจะไม่มีการเปิดเผย เนื่องจากอาจมีผลทางคดี เพราะนอกจากไทยจะเสนอพิกัดดังกล่าวแล้ว ทางกัมพูชาก็จะต้องมีข้อโต้แย้งกลับมา ก่อนที่ไทยจะเสนอข้อโต้แย้งกลับไปในวันที่ 3 พ.ค.นี้อีกครั้ง เบื้องต้น คณะรัฐมนตรี มีความมั่นใจเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการ เพราะไทยจะเสนอแนวพิกัดสั้นๆ ตามที่ นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูต ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เสนอ ซึ่งถือเป็นแนวทางในการต่อสู้ ส่วนคำพิพากษาที่ออกมาจะเป็นอย่างไรนั้น ยังไม่มีการคาดการณ์ต้องให้คณะผู้พิพากษา ทั้ง 17 คน ได้พิจารณาอีกครั้ง
สำหรับพิกัดจะเป็นบริเวณใกล้เคียงปราสาท และอธิบายให้ศาลรับรู้ว่าไทยมองอย่างไร โดยไม่รวมกับพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร ส่วนกรณี ที่กัมพูชาเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกปีนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ต้องรอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานมายังคณะรัฐมนตรีให้พิจารณา
ส่วนการที่ฝ่ายค้านเสนอให้มีการคัดค้านกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว ยังต้องประชุมหารือกัน แต่พร้อมรับฟังความเห็น สิ่งใดเป็นประโยชน์ภาพรวมประเทศก็ยินดีดำเนินการ สำหรับผลการประชุมมรดกโลกครั้งนี้ แม้รับรองให้ปราสาทเป็นมรดกโลก ก็จะไม่มีผลต่อคำตัดสินศาลโลกเพราะเป็นคนละประเด็น ส่วนกรณีที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เรียกร้องให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว กดดันศาลเกี่ยวกับประเด็นปราสาทพระวิหาร เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะขณะนี้ควรอยู่ในความสงบให้มากที่สุด ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเตรียมพิมพ์เอกสารชี้แจง ให้ประชาชนที่ไม่ได้ติดตาม ได้รับทราบข้อมูลมราถูกต้องชัดเจน กระชับเข้าใจง่าย
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า จุดยืนของรัฐบาลในการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารในศาลโลกน้้น ต้องมีความชัดเจนในการต่อสู้ เพื่อไม่ให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกได้ฝ่ายเดียว เพราะกัมพูชาได้สิทธิเป็นเจ้าภาพในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งอาจมีการพิจารณารับรองแผนที่พื้นที่กันชนต่างๆ เพื่อไม่ให้ศาลโลกนำประเด็นนี้เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาตัดสินคดี
แท็กที่เกี่ยวข้อง: