ผู้นำฝ่ายค้านไม่รับร่างพ.ร.บ.งบฯ ปี57 ชี้ประหยัดเงินรัฐ แต่ผลักภาระให้ประชาชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ถึงการขาดดุลที่ลดลง 50,000 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 300,000 ล้านบาท เหลือ 250,000 ล้านบาทว่า เป็นการประหยัดงบประมาณของรัฐบาลที่เป็นการผลักภาระไปให้ประชาชนแบกรับแทน โดยฝ่ายค้านไม่สามารถรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณนี้ได้ เนื่องจากหลักคิดไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ในการพัฒนาประเทศและจัดงบประมาณที่ไม่รับผิดชอบต่อประเทศชาติ
ขณะที่การบริหารเศรษฐกิจบนหลักคิดของรัฐบาลเป็นการบริหารที่ทำให้เศรษฐกิจขาดประสิทธิภาพ มีความเหลื่อมล้ำมากขึ้น เพราะหลักคิดทั้งหมดผิดไม่สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ประกอบกับนายกรัฐมนตรีหาเสียงว่า จะลดค่าครองชีพของประชาชนลงมา และหัวใจสำคัญของมาตรการที่จะใช้คือ ยกเลิกกองทุนน้ำมัน และจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลในเดือนตุลาคม ลิตรละ 1.50 บาท ประชาชนที่ใช้น้ำมันดีเซลจะจ่ายเพิ่มขึ้น 1.50 บาท สิ่งที่จะตามมาคือน้ำมันดีเซลจะสูงเกิน 30 บาท จะมีการขึ้นราคาค่าขนส่งและสินค้า เพราะต้นทุนเพิ่มขึ้น ในแต่ละปีมีการใช้น้ำมันดีเซลราว 20,000 ล้านลิตร ดังนั้นเมื่อเพิ่มขึ้นอีก 1.50 บาท เท่ากับประชาชนต้องจ่ายเพิ่มอีกราว 30,000 ล้านบาท
ส่วนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ที่ต้องการให้กำลังซื้อประชาชนดีขึ้น แต่กลับไม่ได้ผลเพราะผู้ประกอบการมีวิธีการที่จะอยู่รอด ทำให้มีการลดสวัสดิการอื่นมารวมเป็นค่าจ้างให้ครบ 300 บาท ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำรวจพบชั่วโมงการทำงานลดลง ทำให้รายได้ของผู้ใช้แรงงานลดลง แต่ต้องแบกรับค่าครองชีพที่สูงขึ้น และมีหนี้สินเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นจึงไม่ขอรับหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณนี้
