ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่พักสงฆ์ขันติธรรม
ภาพการนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปประกอบศาสนกิจยังต่างประเทศ รวมถึงการใช้สินค้าราคาแพง ของหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์ที่พักสงฆ์ขันติธรรม ตำบลยาง อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งถูกนำมาโพสต์ทางสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดคำถามถึงความเหมาะสม และสถานะทางการเงินของพระรูปนี้ ซึ่งแตกต่างจากพระสายธรรมยุต หรือพระสายวัดป่า ที่ควรเคร่งครัดในการปฏิบัติตนตามหลักพระพุทธศาสนา
ตู้รับบริจาคจำนวนมาก รวมถึงร้านจำหน่ายวัตถุมงคล ขึ้นป้ายจัดจำหน่ายโดยบริษัทขันติธรรมก้าวหน้า ซึ่งตั้งอยู่ภายในที่พักสงฆ์ขันติธรรม เป็นส่วนหนึ่งของรายได้ของที่พักสงฆ์แห่งนี้ ซึ่งสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ เตรียมตรวจสอบสถานะทางการเงิน โดยเฉพาะเงินบริจาคว่ามีการนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่เปิดรับบริจาคหรือไม่
วัดป่าขันติธรรมมีสถานะเป็นเพียงที่พักสงฆ์ จึงเป็นข้อจำกัดในการตรวจสอบรายรับรายจ่ายของที่พักสงฆ์แห่งนี้ เพราะไม่มีสถานะเป็นวัด จึงไม่จำเป็นต้องรายงานสถานะทางการเงิน ต่อสำนักพระพุทธศาสนา ซึ่งปกติจะมีการรายงาน 2 บัญชี คือ บัญชีส่วนตัวของเจ้าอาวาสและเงินสงฆ์ หรือเงินบริจาค กรณีที่พักสงฆ์ขันติธรรม เบื้องต้น พบว่ารายได้ส่วนหนึ่งมาจากเงินบริจาคจากญาติโยมที่เดินทางมาทำบุญ การจำหน่ายวัตถุมงคล และส่วนหนึ่งมาจากการถวายส่วนตัวกับหลวงปู่เณรคำเอง
ขณะที่กรรมการที่พักสงฆ์ขันติธรรม กล่าวว่า มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในที่พักสงฆ์เท่านั้น ส่วนเงินรายได้หลวงปู่เณรคำเป็นผู้ดูแลแต่เพียงผู้เดียว
การวางตัวที่ไม่สำรวมตามวัตรปฏิบัติของพระสายวัดป่าที่ปรากฏตามสื่อของหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก แม้ญาติโยมบางส่วน จะบอกว่าไม่กระทบต่อแรงศรัทธาที่มีต่อตัวหลวงปู่เณรคำ แต่ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่รอบที่พักสงฆ์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมของที่พักสงฆ์ แตกต่างจากในอดีต ซึ่งเคยมุ่งเน้นการปฏิบัติธรรมแต่ระยะหลังจะเป็นเพียงการจัดกิจกรรม เพื่อเปิดรับบริจาคเงิน ซึ่งคนในพื้นที่ไม่ได้เข้าร่วม
หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ปัจจุบันอายุ 34 ปี เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี เริ่มบวชเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 15 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดศรีนวล อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ. 2542 ได้ฉายาว่า ฉัตติโก ก่อนจะมาตั้งสำนักสงฆ์ขันติธรรมที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งปัจจุบัน มีการขยายสาขาทั้งใน และต่างประเทศกว่า 10 สาขา