หลังรายงานว่า นายอานิฟาห์ อามาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนปัจจุบัน นัดหมายไทยและอินโดนีเซีย หารือเพื่อแก้ปัญหาการอพยพของชาวโรฮิงญา ในน่านน้ำทั้ง 3 ประเทศ ก่อนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อแก้ปัญหาลักลอบเข้าเมืองในวันที่ 29 พ.ค.
นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียในวันพรุ่งนี้(20 พ.ค.) เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าว ซึ่งไทยเห็นว่า จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยเน้นหลักมนุษยธรรมและความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างประเทศ
ส่วนการประชุมในวันที่ 29 พ.ค. ที่จะถึงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการดำเนินการของทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ในส่วนของไทยมีประเด็นที่ต้องพิจารณา 3 เรื่อง คือ เรื่องของมนุษยธรรมที่ต้องให้ความช่วยเหลือ เรื่องกฎหมาย ที่ต้องพิจารณาว่า จะดำเนินคดีอย่างไรเพื่อให้สามารถส่งกลับและไม่เป็นภาระกับไทย และเรื่องของประเทศต้นทาง ซึ่งเชื่อว่า ประเทศอาเซียนน่าจะเข้าใจกันดี
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ นายปัจจุปัน อังโชติพันธุ์ หรือ โกโต้ง อดีตนายก อบจ.สตูล ผู้ต้องหาตามหมายจับได้เข้ามอบตัวแล้วและหลังจากนี้จะควบคุมตัวไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อดำเนินสอบสวนและจะคัดค้านการประกันตัว เบื้องต้น นายปัจจุปัน ยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่ได้มีการต่อรองขอประกันตัวและไม่ได้หลบหนีและขอให้การทุกอย่างในชั้นศาลเท่านั้น
นอกจากนายปัจจุบันที่เข้ามอบตัว ล่าสุดศาลได้อนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.ชาญ อู่ทอง สารวัตรแผนกธุรการ สถานีตำรวจภูธรเคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี และ ร.ต.ท.นราธร สัมพันธ์ รองสารวัตรสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง รวมทั้ง น.ส.ทัศนีย์ อังโชติพันธุ์ ภรรยานายปัจจุบัน โดยตำรวจ 2 นายอยู่ในการควบคุมแล้ว ขณะที่ น.ส.ทัศนีย์ หลบหนีอยู่ในพื้นที่ ทำให้ภาพรวมของคดีจนถึงขณะนี้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์แล้ว 65 คน