ร่วมรากเดียวกัน : สงกรานต์ในอุษาคเนย์
เมื่อ “ดอกบะเด้าปาน” ผลิบาน ก็เป็นสัญญาณของเทศกาล “ติงจัน” หรือสงกรานต์เมียนมาร์ การเฉลิมฉลองเล่นสาดน้ำสนุกสนานยังมีทั้งในลาว กัมพูชา และไทย ซึ่งดวงอาทิตย์จะโคจรย้ายจากราศีมีนสู่ราศีเมษ
ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ยังคงมีจารึกถึงตำนานวันสงกรานต์ โดยเล่าถึงธิดาทั้ง 7 ของท้าวกบิลพรหมที่ผลัดกันนำเศียรของบิดามาเวียนรอบเขาพระสุเมรุ เป็นการอุปมาเศียรของท้าวกบิลพรหมเป็นดวงอาทิตย์ที่โคจรเปลี่ยนราศีเข้าสู่ปีใหม่
ขณะที่หลายวัฒนธรรม เช่น ล้านนาและลาว มีการ “ดำหัว” หรือที่แปลว่า “สระผม” ผู้สูงอายุ หรือผู้ใหญ่ที่เคารพ ในเมียนมาร์มีประเพณีที่เรียกว่า “กะด่อ” (Gadaw) ที่จะใช้เครื่องหอมและแชมพูสระผมให้ผู้ใหญ่ ส่วนกัมพูชามีวัน “วิเรี๊ยะเลิงศัก” โดยจัดในวันที่ 3 ของเทศกาลสงกรานต์ มีการสรงน้ำพระพุทธรูป รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ โดยผู้น้อยจะได้รับคำอวยพรเป็นการตอบแทน ซึ่งความหมายของสงกรานต์นั้นไม่เพียงเป็นการก้าวเข้าสู่สิ่งใหม่ แต่ยังหมายถึงช่วงเวลาแห่งการแสดงความกตัญญูและแสดงความปราถนาดีต่อกัน
ประเพณีสงกรานต์ยังพบในลังกาและสิบสองปันนา ซึ่งนอกจากจะเป็นการคลายร้อนแล้ว ยังถือเป็นการเริ่มต้นของปีใหม่และสิ่งที่ดี และแม้รูปแบบการละเล่นจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่สิ่งที่ยังหลงเหลือไว้คือประเพณีที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวและคนในสังคม