ส.อ.ท.หารือ"พงศ์ศักดิ์" หนุนใช้ไฟฟ้าถ่านหิน- หวั่นค่าไฟไทยพุ่ง-ขาดแคลน กระทบลงทุน

 

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานส.อ.ท.กล่าวว่า จากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับใน 14 จังหวัดภาคใต้แม้ส่งผลเสียหายต่อภาคการผลิตไม่มากในอุตสาหกรรมยางพารา ปาล์มน้ำมัน อาหารแช่แข็ง แต่กระทบต่อความเชื่อมั่นอย่างร้ายแรง ส.อ.ท.จึงเสนอมาตรการสำรองพลังงาน โดยมาตรการแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.สนับสนุนมาตรการดูแลระบบสายส่งไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุม โดยนายพงษ์ศักดิ์ระบุว่าได้มีนโยบายขยายสายส่งไฟฟ้าให้เพิ่มเป็น 500 กิโลโวลต์ทั่วประเทศแล้ว 2.สนับสนุนหาแหล่งผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมเพื่อควบคุมต้นทุนไฟฟ้าให้เหมาะสม สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยสนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน แต่ไม่ได้ระบุถึงโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เนื่องจากยังไม่เหมาะกับประเทศไทยเวลานี้ แม้จะมีราคาถูกที่สุดแต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และ3.สนับสนุนให้รัฐบาลกระจายเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าให้ทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะการเพิ่มโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะจ.กระบี่ ที่มีประชาชนบางส่วนยังต่อต้านอยู่บ้าง 

 

"ได้ข้อสรุปร่วมกับกระทรวงพลังงานว่าส.อ.ท.จะช่วยประชาสัมพันธ์ ชี้แจงถึงประโยชน์โรงไฟฟ้าถ่านหินว่าจะไม่กระทบต่อค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ เอฟทีให้เพิ่มขึ้นมากจนเกินไป ไม่เช่นนั้นหากพึ่งพาก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก ค่าไฟฟ้าที่ปัจจุบันอยู่ที่ 3.75 บาทต่อหน่วย ปลายปีอาจเพิ่มเป็น 4 บาทต่อหน่วย และปี 2557 อาจเป็น 5-6 บาทต่อหน่วยก็ได้"นายวัลลภกล่าว 

 

นายวัลลภกล่าวว่า ทั้งนี้สาเหตุที่ส.อ.ท.ต้องเร่งหารือกับภาครัฐเรื่องพลังงานไฟฟ้า เพราะยอดขอส่งเสริมการลงทุนของประเทศเพิ่มขึ้นตามรายงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)ทำให้จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นด้วย ประกอบกับรัฐบาลกำลังมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ 2 ล้านล้านบาท ต้องใช้ไฟฟ้ากับรถไฟฟ้าความเร็วสูง และไฟฟ้าสำหรับการสร้างเมืองใหม่ จึงกังวลอย่างมากหากไทยไม่สามารถเพิ่มสำรองไฟฟ้าสำหรับความต้องการใช้ดังกล่าว