เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เร่งหาสาเหตุเครื่องบิน
ความเสียหายของเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินเอเชียน่า แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 214 เดินทางมาจากนครเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน แวะรับผู้โดยสารที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ โดยปลายทางอยู่ที่นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ
จากการสอบสวนพบว่าขณะที่เครื่องบินกำลังจะลงจอด ช่วงท้ายของเครื่องกระแทกกับขอบรันเวย์ที่กั้นอ่าวซานฟรานซิสโก แรงกระแทกทำให้ช่วงท้ายของเครื่องหลุด เครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์และหมุน 180 องศา ก่อนจะเกิดระเบิดตามมา เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นหญิงวัยรุ่นชาวจีน บาดเจ็บ 182 คน แพทย์ระบุว่าผู้บาดเจ็บจำนวนมากบาดเจ็บที่ช่วงท้อง, กระดูกสันหลังหัก ซึ่งจะทำให้เป็นอัมพาต, บาดเจ็บที่ศีรษะและกระดูกหักหลายแห่ง
โดยมีรายงานว่าหนึ่งในนักบินที่ปฏิบัติหน้าที่บนเครื่องบินลำที่เกิดเหตุ ยังอยู่ระหว่างการฝึกบิน เรื่องนี้โฆษกของสายการบินเอเชียน่า แอร์ไลน์ชี้แจงว่า นักบินคนดังกล่าวคือนายลี กัง กุ๊ก วัย 46 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการฝึกบินจริง แต่เป็นการฝึกเพื่อบังคับเครื่องโบอิ้ง 777 โดยฝึกมาแล้ว 43 ชั่วโมง แต่สำหรับชั่วโมงบินตลอดอายุการทำงาน เขามีชั่วโมงบินมากกว่า 9 พันชั่วโมง และในช่วงปฏิบัติงานเขาอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยนักบิน โดยทำงานคู่กับนักบินที่เชี่ยวชาญในการบังคับเครื่องโบอิ้ง 777 สำหรับสนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโกที่เป็นจุดเกิดเหตุ นายลี กัง กุ๊ก เคยนำเครื่องบินลงจอดที่นี่หลายครั้ง ในช่วงปี 2542-2547 แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขานำเครื่องบินโบอิ้ง 777 ลงจอด
ด้านผู้บริหารของสายการบินเอเชียน่าแอร์ไลน์ ยืนยันว่าสาเหตุไม่ได้เกิดจากความขัดข้องด้านเทคนิคหรือระบบเครื่องยนต์ การสอบสวนของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านคมนาคมของสหรัฐฯ ตรวจสอบข้อมูลจากกล่องดำ นักบินใช้ความเร็วน้อยเกินไปในการลงจอดและบินต่ำเกินไป ซึ่งหอบังคับการบินแจ้งเตือนนักบินให้ยกเลิกการลงจอด แต่หลังจากแจ้งเตือนเพียง 1.5 วินาทีก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น
ส่วนที่ประเทศแคนาดาเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเช่นกันเมื่อรถไฟบรรทุกน้ำมันดิบเกิดพลิกตกรางและเกิดระเบิดที่หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในรัฐควิเบก โดยรถไฟขบวนดังกล่าวไม่ใช้คนขับบรรทุกน้ำมันมา 4 โบกี้ โบกี้ละ 30,000 แกลลอน แรงระเบิดทำให้อาคารหลายสิบหลังที่อยู่ใกล้เคียงพังพินาศ ตอนนี้พบศพผู้เสียชีวิต 5 คน แต่คาดว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นอีกมากเนื่องจากมีผู้สูญหายประมาณ 40 คน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลา 01.00 น.ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น (6 ก.ค.2556)
และเมื่อวานนี้ (7 ก.ค.2556)นายสตีเฟ่นฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ดูความเสียหาย โดยบอกว่าจุดที่เกิดเหตุเป็นเหมือนกับสมรภูมิรบ ทั้งนี้รัฐบาลจะช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่