ผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช ตั้งกก.สอบปลียอดพระบรมธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบกลีบบัวทองคำบนองค์พระบรมธาตุเจดีย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมช่างสิบหมู่กรมศิลปากร เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงหลังทองคำองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เกิดคราบสีดำคล้ายสนิมกินเนื้อทอง ทำให้ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ ในหลายแง่มุม ขณะที่เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ระบุ การเปลี่ยนของทองคำครั้งนี้กรมศิลปากรต้องชี้แจงต่อสาธารณะชนถึงสาเหตุทองคำเปลี่ยนสี

อีกไม่ถึง 10 เมตร การก่อสร้างโครงเหล็กนั่งร้าน ขึ้นตรวจสอบกลีบบัวทองคำบนองค์พระบรมธาตุเจดีย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช จะเสร็จสิ้น หลังแผ่นกลีบบัวทองคำเกิดเปลี่ยนแปลงมีคราบสีดำคล้ายสนิมกินเนื้อทอง ทำให้ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่พบเห็น ต่าง วิพากษ์วิจารณ์ การเปลี่ยนแปลงของทองคำในหลายแง่มุม

พระเทพวินยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร กล่าวว่า สิ่งผิดปกติที่เกิดกับกลีบบัวทองคำ บนองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุแน่ชัดได้ ว่าการเปลี่ยนสีของทองคำเกิดจากสาเหตุใด ต้องรอช่างสิบหมู่กรมศิลปากรขึ้นตรวจสอบก่อน เมื่อผลออกมาไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบ กรมศิลปากรต้องชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชน ให้หาย

ส่วนการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากับทองคำบนองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เมื่อโครงเหล็กนั่งร้านสร้างถึงส่วนที่เป็นทองคำ ก่อนที่ช่างสิบหมู่จะขึ้นตรวจสอบ ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า อาจจะเกิดปัญหากับทองคำองค์พระบรมธาตุเจดีย์ขึ้นอีก ทำให้จังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องหามาตรการป้องกันโดยตั้งคณะกรรมการตรวจคอยสอบทองคำ และ ให้ช่างสร้างโครงเหล็กล้อมรอบใต้แผ่นทอง พร้อมใช้กุญแจปิดล๊อคอย่างแน่นหนาจำนวน 3 ชั้น แต่ละชั้นใช้กุญแจจำนวน 3 ลูก โดยมีผู้ถือกุญแจจำนวน 3 คน เป็นผู้รับผิดชอบ

กลีบบัวทองคำองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เกิดผิดปกติหลังกรมศิลปากร นำแผ่นกลีบบัวทองคำเดิม ลงมาซ่อมแซม เมื่อปี 2530 เนื่องจากทองคำเดิมชำรุด ซึ่งในระหว่างทำการหลอม น้ำหนักทองบางส่วนได้สูญหายไปกับความร้อน ทำให้ช่างสิบหมู่ ไม่สามารถทำกลีบบัวครบตามจำนวนของเดิมได้ ประชาชนและรัฐบาลในขณะนั้น จึงร่วมกันบริจาคทองคำเข้าสมทบ ได้เกือบ 20 กิโลกรัม เมื่อทำกลีบบัวได้ครบตามจำนวนของเดิม ช่างสิบหมู่ได้นำขึ้นไปติดไว้ที่เดิม ถัดมาอีก 26 ปี ทองคำเกิดเปลี่ยนแปลงมีคราบคล้ายสนิม ทำให้ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช วิจารย์สิ่งที่เกิดขึ้นในหลายแง่มุม