ดีเอสไอพบการปลอมลายเซ็นตำรวจ เพื่อกู้เงินสร้างโรงพัก
ข้อพิรุธในการขอสินเชื่อวงเงินการกู้กับธนาคารออมสิน ของบริษัทพีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด กับธนาคารออมสิน ที่ดีเอสไอตรวจสอบพบประเด็นการปลอมลายเซ็นของนายตำรวจที่เป็นคณะกรรมการตรวจรับงาน ก่อสร้างโรงพักทดแทน ทั่วประเทศ
การตั้งข้อสังเกตครั้งนี้ของดีเอสไอ เริ่มจากการตรวจเอกสารการขอกู้ ที่มีการปล่อยสินเชื่อ โดยบริษัทพีซีซี ใช้ตัวบุคคล และนิติบุคคล ในการค้ำประกัน จากการตรวจสอบพบเพียงหนังสือค้ำประกันเท่านั้น ส่วนเอกสารอื่นๆ ในการยื่นประกอบขอสินเชื่อ เช่น หลักทรัพย์ โฉนด และอสังหาริมทรัพย์ ไม่พบ และเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า ผู้ค้ำประกันในนามบุคคล กลับเป็นคนเดียวกับผู้ยื่นกู้
จากข้อเท็จจริงเหล่านี้ ทำให้ดีเอสไอตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดธนาคารออมสิน จึงปล่อยสินเชื่อในวงเงิน 600 ล้านบาทให้ บริษัท พีซีซี ทั้งที่ไม่มีหลักทรัพย์ที่มั่งคง ในการยื่นค้ำประกัน
สำหรับการขอสินเชื่อกับทางธนาคารออมสิน ดีเอสไอให้ข้อมูลหลังการสอบปากคำพยานที่เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ในจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า อำนาจการปล่อยสินเชื่อ แต่ละครั้ง ผู้จัดการสาขา สามารถอนุมัติได้ 3 -5 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งการขอสินเชื่อของบริษัทพีซีซี ต้องผ่านมติคณะกรรมการผู้บริหารของธนาคาร เป็นผู้อนุมัติ
ไทยพีบีเอสพยายามติดต่อกับธนาคารออมสิน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ในขั้นตอนการขออนุมัติ รวมไปถึงเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นขอสินเชื่อ ของบริษัท พีซีซี และได้รับคำตอบว่าผู้บริหารมอบหมายให้ดีเอสไอตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว จึงไม่สะดวกให้ข้อมูล
ล่าสุดอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงประเด็นที่เกิดขึ้นแล้ว โดยมอบหมายให้สำนักการเงินการธนาคาร ตรวจสอบที่มา ของธนาคารออมสินมีส่วนรู้เห็น ในการปลอมแปลงเอกสาร ของบริษัท พีซีซี เพื่อขอสินเชื่อ กรณีก่อสร้างโรงพักทดแทนทั่วประเทศ หรือไม่ ขณะที่นายตำรวจที่ถูกปลอมลายเซ็น บอกว่าไม่รู้ตัวมาก่อน เช่นเดียวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า บอกว่าไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน