บรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งในกัมพูชาวันสุดท้ายคึกคัก
การหาเสียงเลือกตั้งวันสุดท้ายในกรุงพนมเปญ เป็นไปอย่างคึกคักและยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะพรรคซีพีพี แต่มีข้อน่าสังเกตว่า มีการให้เจ้าหน้าที่รัฐ ได้แก่ ทหาร,ตำรวจ รวมถึงใช้อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือมาอำนวยความสะดวกในการหาเสียงของพรรคซีพีพี ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ที่มองว่ามีการโกงอย่างเป็นระบบ ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่เสรีและไม่เป็นธรรม
ฮิวแมนไรท์วอทช์ เปิดเผยในวันนี้ ว่าปัญหาที่พบคือการเข้าถึงสื่อมวลชนที่ไม่เท่าเทียมกัน รัฐบาลควบคุมทั้งสถานีโทรทัศน์และวิทยุ นอกจากนี้ยังพบความผิดปกติของบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งซึ่ง หลายพื้นที่มีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่าความเป็นจริง จึงเป็นช่องทางในการโกงเลือกตั้ง ในขณะที่นายสม รังสี หัวหน้าพรรคกู้ชาติแห่งกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) ไม่สามารถลงสมัครเลือกตั้งได้ ยิ่งทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่มีความเสรีและไม่ชอบธรรม
การเลือกตั้งทั่วไปในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 โดยการเลือกตั้งที่ผ่านมาในปี2541 2546และ 2551 คณะผู้สังเกตการณ์ทั้งจากในและต่างประเทศเห็นตรงกันว่า การเลือกตั้งทั้ง 3 ครั้งไม่มีความเสรีและเป็นธรรม และในครั้งนี้สหภาพยุโรปและฮิวแมนไรท์วอทช์ รวมถึงชาติตะวันตก ไม่ได้ส่งคณะผู้สังเกตการณ์มาดูการเลือกตั้งในกัมพูชา เพราะพบปัญหาเรื่องการทุจริตเลือกตั้งหลายอย่าง และคณะกรรมการการเลือกตั้งของกัมพูชาไม่ยอมปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้การเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรม
แต่สิ่งที่พัฒนาขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ คือมีการใช้ความรุนแรงน้อยลง แต่ยังคงมีรายงานว่าผู้สมัครจากพรรคฝ่ายค้าน ยังถูกข่มขู่,คุกคาม ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคในการหาเสียง
วันนี้ (26 ก.ค.2556) เป็นวันหาเสียงวันสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 28 ก.ค.2556 โดยรัฐบาลได้ออกกฎระเบียบห้ามจำหน่ายและห้ามดื่มสุรา ระหว่างวันที่ 27-28 ก.ค.2556 เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง,ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงที่มีการเลือกตั้ง สำหรับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้มีประมาณ 9 ล้าน6 แสนคน โดยมีพรรคการเมือง 8 พรรค ที่ส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้สมาชิกสภา123 ที่นั่ง โดยจังหวัดที่มีการแข่งขันรุนแรงที่สุด คือกรุงพนมเปญ,จังหวัดกัมปงจาม,จังหวัดกันดาลและเปรยเวียง ซึ่งมีจำนวน สส. 11-18 ที่นั่ง
การเลือกตั้งเมื่อครั้งที่แล้วในปี 2551 พรรคซีพีพี ของสมเด็จฮุนเซน ชนะไปด้วยคะแนนร้อยละ 58 อันดับ 2 คือพรรคสมรังสี ได้ไปร้อยละ 21 และอันดับ 3 คือพรรคสิทธิมนุษยชนได้ไปร้อยละ 6 แต่ครั้งนี้พรรคสมรังสีและพรรคสิทธิมนุษยชนกัมพูชารวมเป็นพรรคใหม่ที่มีชื่อว่าพรรคกู้ชาติแห่งกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) นำโดยนายสม รังสี คาดว่าน่าจะทำคะแนนตีตื้นพรรค CPP ขึ้นมาได้ ทั้งนี้คาดว่าหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งไม่เกิน 1 วัน น่าจะทราบผลการนับคะแนนทั้งหมด