สำนวนการสอบสวนในข้อหาฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนทั่วประเทศ 396 แห่ง พร้อมผู้บริหารบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ถูกพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นำส่งอัยการเพื่อให้พิจารณาสั่งฟ้องแล้ว ซึ่งสำนวนมีทั้งหมด 15 แฟ้ม 4,809 ฉบับ ซึ่งเป็นหลักฐานที่พบความผิดปกติหลายประเด็น โดยเฉพาะการเคาะราคา
ก่อนหน้านี้ วันที่ 13 มิถุนายน ดีเอสไอได้ส่งสำนวน พร้อมผู้บริหารบริษัท พีซีซีฯ ฟ้องในข้อหาฉ้อโกงไปแล้ว ซึ่งทั้ง 2 กรณีอัยการนัดฟังคำสั่งพร้อมกันว่าจะฟ้องหรือไม่ในวันที่ 25 กันยายน
ส่วนกรณีที่ดีเอสไอพบ ตัวแทนบริษัท พีซีซีฯ ปลอมลายเซ็น ของนายตำรวจกว่า 1,500 ครั้ง เพื่อยื่นเรื่องขออนุมัติกู้เงินจากธนาคารออมสิน ทนายความบริษัท พีซีซีฯ ออกมายืนยันว่ายังไม่ทราบข้อมูล แต่จะตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไออีกครั้ง ซึ่งต่างกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่บอกว่าได้แจ้งให้ทางบริษัท พีซีซีฯ ทราบแล้ว และข้อมูลใหม่นี้จะรวบรวมเป็นสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาในภายหลัง
ขณะที่การก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนทั่วประเทศก็ยังไม่มีความคืบหน้า และเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เสนอข้อมูลต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับโครงการทั้งหมด และยืนยันให้มีการก่อสร้างต่อ พร้อมขอให้มีการขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณจากที่จะหมดปี 2556 ไปเป็นปี 2558
หลังรับทราบรายละเอียด นายกรัฐมนตรีให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลางร่วมกันพิจารณา และนำข้อมูลความจำเป็นมานำเสนออีกครั้งในการ ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดต่อไป