แม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่พรรคประชาชนกัมพูชาหรือ ซีพีพี (CPP) ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ประกาศอ้างชัยชนะในการเลือกตั้ง คาดว่าพรรคจะกวาดที่นั่งในสภาได้อย่างน้อย 68 ที่นั่ง จากจำนวนที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรที่ช่วงชิงกันทั้งหมด 123 ที่นั่ง ขณะที่มีรายงานว่าพรรคกอบกู้ชาติของนายสม รังสี แกนนำฝ่ายค้านคนสำคัญ สามารถคว้าที่นั่งได้มากถึง 55 ที่นั่ง แม้ว่านายสม รังสี จะถูกตัดสิทธิ์จากการเลือกตั้งตาม และหากตัวเลขนี้ได้รับการยืนยัน เท่ากับว่าพรรคซีพีพีของนายฮุน เซน ทำคะแนนได้แย่ที่สุดในรอบ 15 ปี โดยการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรคซีพีพีกวาดที่ได้ถึง 90 ที่นั่ง แต่ครั้งนี้ต้องสูญเสียที่นั่งให้กับพรรคฝ่ายค้านกว่า 20 ที่นั่ง ขณะที่คณะกรรมการเลือกตั้งเปิดเผยว่า การประกาศผลคะแนนอย่างเป็นทางการต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์กว่าจะรวบรวมคะแนนแล้วเสร็จ
ก่อนหน้านี้มีความสับสนเกิดขึ้นเล็กน้อย เมื่อพรรคกอบกู้ชาติกัมพูชาของนายสม รังสี ออกมาประกาศชัยชนะในการเลือกตั้ง ก่อนจะถอนคำประกาศดังกล่าวในเวลาต่อมา
การเลือกตั้งของกัมพูชาในครั้งนี้มีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนมากกว่า 9 ล้านคน แต่ไม่โปร่งใส เมื่อพรรคกอบกู้ชาติกัมพูชาของนายสม รังสี กล่าวถึงสถานการณ์การเลือกตั้งเลวร้ายกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะมีการโกงเลือกตั้งครั้งมโหฬารที่สุด เช่น กรณีที่รายชื่อผู้สิทธิ์ที่หายไปจากทะเบียนเลือกตั้ง การสวมสิทธิ์ของผู้สิทธิ์ลงคะแนนหลายพันคน และหมึกที่ใช้ทำเครื่องหมายในบัตรเลือกตั้งลบออกได้ง่าย ขณะที่คณะกรรมการเลือกตั้งแห่งชาติปฎิเสธข้อกล่าวหาของกลุ่มฝ่ายค้าน
ขณะที่มีความรุนแรงเกิดขึ้นที่คูหาเลือกตั้งแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ เมื่อกลุ่มผู้ลงคะแนนก่อเหตุประท้วงรุนแรง เพราะโกรธเรื่องรายชื่อหายไปจากทะเบียนเลือกตั้ง โดยผู้ประท้วงได้จุดไฟเผารถตำรวจ ทำให้เสียหาย 2 คัน ก่อนที่ทหารจะระดมกำลังเข้ามารักษาความสงบและควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ล่าสุดนายสม รังสี ออกมาแถลงข่าวว่ารัฐบาลออกมาสรุปผลการเลือกตั้งเร็วเกินไป แต่ขอให้ชาวกัมพูชาร่วมกันเฉลิมฉลองกระบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้พรรคกอบกู้ชาติกัมพูชาของนายสม รังสี ทำคะแนนได้ดีในการเลือกตั้งครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากเสียงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ ซึ่งต้องการเห็นการเปลี่ยนทางการเมือง