คดีพระวิหารกระทบการค้าชายแดน
ก่อนที่ศาลโลกจะมีคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหารในวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิยายน ที่จะถึงนี้ ทางนักวิชาการ จากวิทยาลัยปรีดี พนมยงค์ ระบุว่าพื้นที่บริเวณชายแดน ได้มีผลกระทบด้านการค้ารายย่อยบ้างแล้ว จากการที่ประชาชนทั้งสองฝั่งไม่ได้รับอนุญาตให้ข้ามด่านผ่านไปมาได้โดยสะดวก แต่การค้าส่งขนาดใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบมาก เช่นใน จ.สระแก้ว ยังคงมีการสั่งอุปกรณ์เกี่ยวกับการก่อสร้าง และเครื่องจักรด้านการเกษตรอยู่
นายอัครพงษ์ ยังระบุว่า แม้ไทยกับกัมพูชาจะมีความขัดแย้งในคดีพระวิหาร แต่ในส่วนของการค้าการลงทุน นักลงทุนไทย โดยเฉพาะที่เคยลงทุนในกัมพูชา ก็ยังมีโอกาสด้านการค้าการลงทุน โดยอัตราดอกเบี้ยกัมพูชาค่อนข้างต่ำ แต่ยังมีอุปสรรคอยู่บ้างเกี่ยวกับระบบการเงินการธนาคาร
ด้านนายบำรุง ล้อเจริญวัฒนะชัย ประธานหอการค้า จ.สระแก้ว ระบุว่าการค้าตามแนวชายแดนยังคงเป็นปกติ และยืนยันว่าไม่มีการกักตุนสินค้า แต่อาจจะชะลอการสั่งซื้อสินค้าอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นห่วงสถานการณ์การเมืองในส่วนกลางมากกว่า
สอดคล้องกับการค้าชายแดน จ.ศรีสะเกษที่ยังเป็นปกติ โดย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดระบุว่าการค้าขายชายแดนที่ จ.ศรีสะเกษ เป็นลักษณะตลาดนัดทุกวันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์ ดังนั้นคำตัดสินที่จะมีในวันจันทร์ คาดว่าจะไม่มีผลกระทบ หรือกระทบเพียงระยะสั้น
มูลค่าการค้าชายแดนไทย กัมพูชา นับตั้งแต่ปี 2541 ไทยได้ดุลการค้ากับกัมพูชามาตลอด และในปีนี้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยคาดว่าจะมีมูลค่าการค้าระหว่างกันประมาณ 150,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ที่มีมูลค่าการค้า 120,000 ล้านบาท