ทหารเร่งทำความเข้าใจชาวบ้านชายแดนไทย - กัมพูชา ก่อนศาลโลกตัดสินคดี
ทหาร และหน่วยงานในพื้นที่เร่งทำความเข้าใจกับชาวบ้านไม่ให้ตื่นตระหนกกับสถานการณ์ หลังมีชาวบ้านตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เริ่มอพยพออกจากพื้นที่ เพราะเกรงจะเกิดการสู้รบในช่วงการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลก ขณะที่มาตรการป้องกันกลุ่มมวลชนที่จะเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ยังเป็นไปอย่างเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า ทหารกองกำลังสุรนารี และทหารกองพันสนับสนุนที่ 375 กัมพูชา เข้าพบปะพูดคุยเพื่อพัฒนาสัมพันธ์บริเวณช่องตาเฒ่า ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดที่มีการวางกำลังของทหารไทย และกัมพูชา ซึ่งอยู่ห่างจากเขาประวิหารประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีทหารระดับผู้บังคับหน่วยของไทย และกัมพูชาร่วมพูดคุย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และลดความหวาดระแวงต่อกันในช่วงการตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร โดยทั้ง 2 ฝ่ายมีข้อตกลงร่วมกันให้ผู้บังคับหน่วยทหารทั้ง 2 ฝ่ายกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นจนเป็นชนวนเหตุนำไปสู่การสู้รบตามแนวชายแดน เนื่องจากในพื้นที่ยังมีการวางกำลังของทหารไทย และกัมพูชาอยู่ในลักษณะการเผชิญหน้ากัน
ส่วนบริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งขณะนี้ได้ปิดการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน มีกำลังตำรวจตระเวนชายแดนรักษาความปลอดภัยอยู่ในพื้นที่ ขณะที่บริเวณปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ของกัมพูชายังคงวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกัน และมีนักท่องเที่ยวบางส่วนขึ้นไปเที่ยวชมปราสาทพระวิหารตามปกติ
สำหรับการเคลื่อนไหวของของกลุ่มมวลชน ขณะนี้ นอกจากกลุ่มธรรมยาตราแล้ว ยังมีมวลชนหลายกลุ่มที่พยายามจะขึ้นไปเคลื่อนไหวคัดค้านคำตัดสินของศาลโลกบริเวณพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร แต่ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดไว้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนนั่งประท้วงอยู่กลางถนน ซึ่งแกนนำก็พยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ เพื่อขอส่งตัวแทนขึ้นไปแสดงจุดยืน แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาต โดยให้เหตุผลว่าเป็นพื้นที่ความมั่นคงที่มีการวางกำลังของทหาร และเสี่ยงเกิดเหตุความรุนแรง
ส่วนสถานการณ์ตามแนวชายแดน ขณะนี้ ชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ 7 ตำบล 80 หมู่บ้านใน อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบหากเกิดการสู้รบระหว่างทหารไทย และกัมพูชา บางส่วนที่มีที่นาใกล้วิถีกระสุนก็เร่งเก็บเกี่ยวข้าวก่อนกำหนด เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุความรุนแรง ขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงบางส่วนที่ไม่มั่นใจในสถานการณ์ก็เริ่มอพยพออกจากพื้นที่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเด็ก ทำให้ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน และมีการเตรียมความพร้อมรับมือหากเกิดเหตุความรุนแรง
ในวันนี้ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมด้านการแพทย์ โดยกำชับให้โรงพยาบาลกันทรลักษ์, ขุนหาญ และโรงพยาบาลภูสิงห์ให้เตรียมบุคลากรทางการแพทย์ และเครื่องมือตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับสถานการณ์ ส่วนการสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน ทหารชุดมวลชนสัมพันธ์ยังคงลงพื้นที่ทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ โดยให้ความมั่นใจว่าไม่ว่าคำตัดสินของศาลโลกจะออกมาในทิศทางใด ทั้ง 2 ประเทศนั้นก็จะยึดหลักการเจรจา และเน้นแนวทางสันติ
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 จะเข้าหารือ และพบปะพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้นำทางทหารของกัมพูชาที่ จ.สุรินทร์ เพื่อที่จะลดความตึงเครียดตามแนวชายแดนก่อนที่จะมีการตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้