กลุ่มสภากาแฟหวัง
กลุ่มสภากาแฟในจ.ศรีสะเกษแสดงความเห็นต่อคำตัดสินของศาลโลกในคดีปราสาทพระวิหาร โดยมองว่าไทยเสียเปรียบกัมพูชา เพราะเสียดินแดนบริเวณชะง่อนผา และต้องถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่โดยรอบตัวปราสาท ต่างจากเสียงสะท้อนสมาชิกสภากาแฟในจ.อุบลราชธานี, นครราชสีมา รวมทั้งชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่พอใจกับคำตัดสินของศาลโลก เพราะพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรไม่ได้ตกเป็นของกัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลทั้งสองประเทศเร่งเจรจา เพื่อหาข้อยุติ
บรรยากาศที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เช้าวันนี้ (12 พ.ย.) ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากประชาชนบางส่วนหนึ่งยังคงกังวลกับคำตัดสินของศาลโลก ที่ไม่ระบุแนวเขตแดนที่ชัดเจน แม้ว่ารัฐบาลทั้งสองประเทศจะแถลงย้ำถึงแนวทางการเจรจาอย่างสันติ
ส่วนสมาชิกสภากาแฟ จ.พิษณุโลก เห็นว่าคำตัดสินของศาลโลกกรณีประสาทพระวิหาร ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องของพื้นที่ ประเทศไทยเสียดินแดนจริงหรือไม่ และมีขนาดเท่าไหร่ ทั้ง 2 ประเทศต้องสรุปในเรื่องดังกล่าว ให้ชัดเจนก่อนที่จะถูกนำไปเป็นข้อพิพาทรอบใหม่ โดยหวังว่าจะจบลงด้วยดี เพราะเวลาอันใกล้นี้เขตแดนจะถูกหลอมเป็นหนึ่งเดียวจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
สมาชิกสภากาแฟชุมชนอิสลาม เขตเทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก เห็นว่า หลายประเด็นที่ต้องนำมาตีความเพื่อความชัดเจน หากสังคมมีการวิพากษ์วิจารณ์หรือตื่นตระหนก จะทำให้เกิดความความขัดแย้งและเสียหายต่อประเทศ
เช่นเดียวกับประชาชนในจังหวัดสงขลามองว่า ศาลโลกได้แนะนำให้ประเทศไทยกับกัมพูชา เปิดการเจรจากันแบบทวิภาคี โดยไม่ตัดสินให้พื้นที่ทับซ้อนตกเป็นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนั้น น่าจะเป็นแนวทางที่ดี ทำให้เกิดความสงบสุขใน 2 ประเทศ แต่เห็นว่าทางกัมพูชาเองต้องมีความจริงใจ และไม่อ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งไม่ควรมีคำสั่งห้ามจากรัฐบาลกัมพูชาที่ห้ามไม่ให้คนไทยเดินทางเข้าไปพื้นที่ดังกล่าวเหมือนก่อนหน้านี้