ชาวตรังอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันปฏิรูปประเทศ

ฝนที่ตกหนักทำให้การชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดศาลากลางจังหวัดตรังในช่วงเช้าไม่คึกคัก ขณะที่ชาวบ้านบางคนที่ติดตามข่าวการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเรียกร้องให้รัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านหันหน้าเข้าหากัน และร่วมกันปฏิรูปประเทศ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตความขัดแย้ง

ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า ชาว จ.ตรัง จำนวนมากติดตามข่าวสารการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามร้านน้ำชาต่างๆ ในเขตเมือง หลายคนบอกว่าอยากให้ประเทศรอดพ้นวิกฤตความขัดแย้งนี้ไปได้ และอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายนั้นหันหน้าเข้าหากัน เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศ

ขณะที่บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หน้าอาคารศาลากลางจังหวัดตรัง ช่วงเช้าที่ผ่านมายังมีคนไม่มากนัก เพราะว่าฝนที่ตกหนัก แต่เชื่อว่าในช่วงบ่าย และค่ำจะมีผู้เข้าร่วมมากขึ้น จึงได้กันพื้นที่จราจร 1 ช่องจราจร ให้ใช้สำหรับการชุมนุม

ด้านพนักงาน และเจ้าหน้าที่ในศาลากลางได้หยุดงานต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดปราบจลาจลดูแลรอบอาคารอย่างเข้มงวด ส่วนบริเวณห้องโถงศาลากลางหลังเดิม ซึ่งเป็นที่ทำงานของหน่วยงาน 4 สังกัด คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัด, สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย,สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต จ.ตรัง

กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปิดให้ข้าราชการเข้าไปทำงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ยังมีอีกไม่ต่ำกว่า 3,000 ครัวเรือน หรือประมาณ 25,000 คน ที่ยังคงได้รับความเดือดร้อน และแม้ว่าฝนจะตกลงมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ และเป็นสาเหตุทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมในช่วงเช้าที่ผ่านมามีจำนวนน้อยลง

แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ในส่วนของแกนนำนั้นมั่นใจว่าในเวลาประมาณ 15.00 น. จำนวนของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดล้อมศาลากลางจังหวัดตรังจะมีเพิ่มขึ้น เพราะว่าจะมีผู้ที่คัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในจังหวัดใกล้เคียงมาสมทบที่นี่