จ.เชียงใหม่ประกาศพื้นที่ภัยหนาวเพิ่มอีก 7 อำเภอ-ขาดแคลนผ้าห่มกว่า 3 แสนผืน
จ.เชียงใหม่ ประกาศพื้นที่ภัยหนาว เพิ่มเป็น 7 อำเภอ และยังขาดแคลนผ้าห่ม และเสื้อกันหนาว มากกว่า 300,000 ชิ้น เช่นเดียวกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ประสบภัยหนาวในหลายพื้นที่
อุณหภูมิที่ลดต่ำลงเหลือเพียง 13 องศาเซลเซียสในอ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ทำให้ประชาชนที่ยังคงขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวกว่า 6,000 คน ต้องผิงไฟเพื่อคลายความหนาว ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่น จัดเวรยาม เฝ้าระวัง ป้องกันอัคคีภัยในชุมชน ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่จ.อุบลราชธานี เตรียมประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยหนาวใน 6 อำเภอ คือ อ.เมืองอุบลราชธานี, วารินชำราบ, สว่างวีระวงศ์, เดชอุดม, ตระการพืชผล และกุดข้าวปุ้น หลังอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ต่อเนื่องต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเกิน 3 วัน
ที่จ.เชียงราย อุณหภูมิ ลดเหลือ 6-9 องศาเซลเซียส ชาวบ้านต่างพาไปซื้อเครื่องนุ่งห่ม ในตลาดเทศบาลนครเชียงรายกันอย่างคึกคัก สินค้าที่เป็นที่นิยม เช่น ถุงมือ, ถุงเท้า, หมวก และผ้าห่ม และหลายชนิด มีราคาสูงขึ้น ร้อยละ 30-50 และเริ่มขาดตลาด
ขณะที่จ.เชียงใหม่ ประกาศพื้นที่ประสบภัยหนาวเพิ่มเป็น 7 อำเภอ หลังอุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ติดต่อกัน 3 วัน เบื้องต้น มีผู้ประสบภัย ต้องการผ้าห่ม และเสื้อกันหนาว มากกว่า 330,000 ชิ้น
ส่วนจ.พิษณุโลก และจ.สุโขทัย อุณหภูมิลดต่ำลง โดยเฉพาะที่ต.บ้านแก่ง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ครูโรงเรียนบ้านห้วยหยวก ต้องนำนักเรียนออกกำลังกายคลายหนาว เนื่องจากเด็กชาวเขา เผ่าปกากะญอบางส่วน ยังขาดแคลนครื่องนุ่งห่ม
เช่นเดียวกับชาวจ.กำแพงเพชร หลายกลุ่ม ที่หันมาออกกำลังกาย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค ในช่วงฤดูหนาว ขณะที่โรงพยาบาลแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก มีผู้ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ เป็นจำนวนมาก
อากาศที่หนาวเย็นติดต่อกัน ยังทำให้เกิดโรคระบาด ราน้ำค้าง และข้าวไม่ออกรวง ในต.หนองเต่า อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ ทำให้ชาวนาต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยกระโดดระบาดด้วย