ชาวบ้านไม่มั่นใจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

เด็กนักเรียนที่อยู่ติดชายแดน จ.บุรีรัมย์ เริ่มกลับมาซ้อมหลบภัยอีกครั้ง หลังไม่มั่นใจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนนายอำเภอภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ขอร้องให้ผู้ค้าที่ตลาดช่องสะงำย้ายร้านค้าออกห่างจากตัวตลาด เพื่อความปลอดภัย

นักเรียนโรงเรียนนิคมสร้างตนเอง 8 บ้านสายโท 5 ใต้ ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกันซ้อมแผนหลบภัยการสู้รบ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นตามแนวชายแดน หลังทหารไทยและกัมพูชายังไม่ถอนกำลัง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่ศาลโลกมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ถอนกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย

ส่วนนายอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยในตลาดช่องสะงำกว่า 100 ราย ให้ย้ายร้านค้าออกห่างจากตลาดช่องสะงำเก่าอีก 3 กิโลเมตร เพื่อความปลอดภัยหากเกิดสถานการณ์ ขณะที่ในวันนี้ (19 ก.ค.) ทหารกองกำลังสุรนารียังตั้งจุดตรวจรถยนต์ทุกชนิด บริเวณเส้นทางเข้าสู่ปราสาทตาควาย ตำบลบักได และปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันสายลับเข้ามาหาข่าวในพื้นที่ ส่วนทหารกัมพูชายังคงวางกำลังในลักษณะเผชิญหน้ากับทหารไทยที่ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่โดยรอบพื้นที่ปราสาททั้ง 2 แห่งเช่นกัน
 
ส่วนชายแดนด้านอำเภอน้ำขุ่น และอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เตรียมลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เพื่อไม่ให้ ตื่นตระหนกกับคำสั่งของศาลโลกพร้อมกำชับให้ผู้นำท้องถิ่น และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ช.ร.บ. เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยมากขึ้น

ด้าน พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ขณะนี้ทหารกองทัพภาคที่ 2 ยังคงปักหลักดูแลพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร ส่วนเรื่องการถอนทหารออกจากพื้นที่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผลการพิจารณาของผู้บัญชาการทหารบก และรัฐบาลที่อยู่ระหว่างการหารือกัน