ท่าร่ายรำออกพระ-นางที่คุ้นตาในการแสดงลิเก ทั้ง 4 ท่า แสดงแบบด้วยเครื่องทรงสีสันสะดุดตาบอกเล่าเอกลักษณ์ลิเกชาวบ้านได้อย่างลงตัว นี่เป็นรูปแบบของตราไปรษณียากรไทยชุดพิเศษที่จัดสร้างโดยเลือกศาสตร์ทางด้านลิเกขึ้นมาเชิดชูเกียรติ เพื่อสื่อความงามของศิลปะการแสดงพื้นบ้านที่ควรคู่แก่อนุรักษ์ ทั้งยังสอดแทรกเรื่องราวประวัติศาสตร์ลิเกผ่านเครื่องแต่งกายประเภทต่างๆ ให้ได้เรียนรู้ โดยเฉพาะชุดของลิเกทรงเครื่องที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี
บุญเลิศ นาจพินิจ ศิลปินแห่งชาติ ปี 2539 สาขาย่อยลิเก กล่าวว่า ลิเกทรงเครื่องจะหมดไปแล้ว เพราะว่าเครื่องแต่งตัวไม่มีช่างที่จะทำ มีหลงเหลืออยู่บ้างที่ผมอนุรักษ์ไว้บ้าง ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานเท่าไหนเกิดขึ้นในรัชกาลที่ 5 มีข้าราชบริพารในรัชกาลที่ 5 เป็นคนคิดเครื่องแต่งตัวแล้วนำมาเล่นเป็นลิเกทรงเครื่องแล้วเปลี่ยนแบบเป็นลิเกลูกบทที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
อานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการ บ.ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า จริงๆ แล้วในเรื่องของศิลปะการแสดงที่เกิดจากภูมิปัญญาไทยในเรื่องของลิเก การที่เอาตัวแสดงลิเกมาปรากฎบนดวงแสตมป์ถือเป็นครั้งแรก เพื่อที่จะเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมศิลปะแบบโบราณของไทยที่มีมาดั้งเดิม ขณะเดียวกัน ทำให้ทั่วโลกได้เห็นว่าในศิลปะแบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของไทยที่ยังสืบทอดมาถึงปัจจุบัน
ดวงตราแสตมป์พิเศษชุดนี้จะนำมาจัดแสดงครั้งแรกในงานแสดงตราไปรษณียากรแห่งชาติ ครั้งที่ 17 ที่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 4-10 สิงหาคม และในโอกาสดีนี้พระเอก-นางเอกจากคณะลิเกต่างๆ ทั่วประเทศถือโอกาสประชันฝีมืออวดความสามารถเป็นการเฉพาะกิจ ร่วมกับการแสดงแขนงอื่นๆ ที่เคยนำมาจัดสร้างแสตมป์ภายใต้แนวคิด "ร้องรำทำเพลง ครื้นเครงมหรสพไทย" เพื่อยกระดับ และส่งเสริมการสะสมตราไปรษณียากรในประเทศไทยให้ได้มาตรฐานสากล