เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.2560) นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) เปิดเผยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยน่าเป็นห่วง จึงอยากให้รัฐบาลให้ข้อมูลเศรษฐกิจที่แท้จริงกับประชาชน โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชนที่ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างเดียว ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติและอาจจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่จากที่มีการก่อสร้างโครงการจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลดูแลให้ดี นอกจากนี้ รัฐบาลต้องให้ข้อมูลเศรษฐกิจการลงทุนที่ถูกต้องว่าทำไมเอกชนไม่ลงทุนทั้งมีเงินสดมากและนำไปจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสูง โดยเอกชนไทยจ่ายเงินปันผลสูงที่สุดในอาเซียนและเอเชีย ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องพิจารณาว่าถูกต้องหรือไม่
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การลงทุนภาคเอกชนยังถือเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม เนื่องจากอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากที่ผ่านมา ภาคเอกชนไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประกอบกับกำลังการผลิตในบางอุตสาหกรรมอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาครัฐยังขยายตัวสูง โดยการลงทุนโครงการต่างๆ เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น แม้ว่าการเบิกจ่ายยังไม่มากนัก
ขณะที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีเวลาอีกปีในการจะดำเนินการด้านต่างๆ เพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยหวังว่าจะมีเอกชนเข้ามาช่วยร่วมผลักดันโดยเฉพาะด้านดิจิทัลเพื่อผลักดันให้เกิดสตาร์ทอัพและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น โดยการเติบโตของเศรษฐกิจที่ร้อยละ 3.3ในไตรมาสแรก เป็นตัวเลขที่ทำได้ดีในภาวะที่เศรษฐกิจโลกซบเซา