วานนี้ (17 ก.ค.2560) ผศ.ดร.ณัฐฐา วินิจนัยภาค ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “พฤติกรรมการออมและภาวะหนี้สินของประชาชนในช่วงครึ่งปีแรก 2560” จากประชาชน 2,000 คนที่มีรายได้ทั่วประเทศ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 45.15 มีรายได้ พอๆกับรายจ่าย โดยประชาชนมีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 26,469 บาทขณะที่รายจ่ายเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 21,606 บาท
นอกจากนี้ขณะที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ มีหนี้เฉลี่ยกว่าสินรวมกว่า 565,000 บาทหรือร้อยละ 68 เกิดจากการซื้อ-ผ่อนชำระค่าสินค้าบริการ และสัดส่วนร้อยละ 59 เป็นเงินที่กู้มาเพื่อนำไปซื้อ ผ่อนรายเดือน ชำระสินค้า การบริการ สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นการกู้ทิ้งไปไม่มีเงินงอกเงย ส่วนรองลงมาร้อยละ 35 เป็นหนี้จากการลงทุนในการประกอบอาชีพ การดำเนินธุรกิจ กิจการ การเกษตร การค้าขาย เกิดจากการสร้าง ต่อเติม ปรับปรุงที่อยู่อาศัย บ้าน คอนโด ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ แม้กลุ่มตัวอย่างครึ่งหนึ่งระบุว่ามีเงินออมไว้ใช้ในการดำรงชีพ แต่ส่วนใหญ่กลับมีไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินไม่ใช่เงินออมสำรองไว้ใช้ในอนาคต หรือออมระยะยาวไว้ใช้หลังเกษียณ
ผลสำรวจ ยังระบุว่าร้อยละ 51 มีเงินออมไว้ใช้ โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 48.79 ออมเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น เพื่อการรักษาพยาบาล การเจ็บป่วย อุบัติเหตุร้อยละ 38 ออมเพื่อสำรองไว้ใช้ในอนาคตร้อยละ 26 ออมไว้ให้บุตรหลาน ตลอดจนการศึกษาของบุตรหลานร้อยละ 12 ออมใช้ในระยะยาวช่วงหลังเกษียณอายุ
ห่วงภาวะเงินออมน้อย บั่นทอนความมั่นคง"วัยเกษียณ"
ผศ.ณดา จันทร์สม คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ นิด้า มองว่าสถานการณ์นี้กำลังสร้างปัญหา บั่นทอนเศรษฐกิจประเทศ รวมทั้งการเข้าสังคมผู้สูงวัยของไทย ที่ประชาชนควรมีความมั่นคงในวัยเกษียณ
ด้านนายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ บอกว่า ไตรมาสแรกปีนี้ภาระหนี้ภาคครัวเรือนทั้งระบบอยู่ที่ 11.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 345,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 จากปี 2559 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 78 ของจีดีพี
ส่วนใหญ่มีภาระหนี้จากสถาบันการเงิน สหกรณ์ทางการเงินทุกประเภท บัตรเครดิต และยังพบว่าคนวัยทำงานอายุน้อยมีภาระหนี้สูงจากโครงการรถยนต์คันแรก คนปัจจุบันเป็นหนี้เร็ว ยอดหนี้มากขึ้น และเป็นหนี้นานขึ้น สถานะหนี้ปัจจุบันจึงน่าเป็นห่วงคุณภาพของหนี้ครัวเรือน
บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติยังได้เปิดเว็บไซต์ www.thaidebtmoney.com หรือ www.มันหนี้.com และwww.facebook.com/thaidebtmoney เพื่อให้คำแนะนำกับลูกหนี้ที่มีปัญหาด้วย ลูกหนี้หรือคนเตรียมเป็นหนี้เข้าไปติดตามข้อมูลได้