กรณีบริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ (กระทิงแดง) จำกัด ได้ยื่นขออนุญาตประกอบกิจการในที่ดินแปลงห้วยเม็กสาธารณประโยชน์ หมู่ที่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เนื้อที่ 31 ไร่ เพื่อใช้เป็นที่เก็บกักน้ำ สำหรับประกอบกิจการอุตสาหกรรมผลิตน้ำดื่ม และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์และถูกตรวจสอบโดยเพจปฏิบัติการ "หมาเฝ้าบ้าน" องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นประเทศไทย ระบุอยู่ในเขตป่าชุมชนนั้น
วันนี้(11 ก.ย.2560) นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้มีการขอขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุมชน กับกรมป่าไม้ แต่อยู่ในพื้นที่หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ นสล. เป็นอำนาจความรับผิดชอบของทางจังหวัด โดยกระทรวงมหาดไทย ที่อนุมัติการใช้พื้นที่ ทั้งนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าในเขตพื้นที่ขอนแก่นมีป่าชุมชนใน นสล.ประมาณ 52 แปลง พื้นที่ 13,900 ไร่ โดยในพื้นที่ ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีการขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุมชน เพียง 1 แห่ง คือป่าชุมชนบ้านหนองแต้ เนื้อที่ 65 ไร่
"แปลงที่ดินดังกล่าวไม่มีการจัดตั้งป่าชุมชน โดยอาศัยอำนาจของกรมป่าไม้ ซึ่งขณะนี้มีป่าชุมชนในเขตที่ดินป่าไม้ พ.ศ.2484 กว่า 20,000 ไร่ นอกนั้นอยู่ในความดูแลของส่วนราชการต่างๆ และพื้นที่ในส่วนอื่นๆ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลป่าชุมชน ของกรมป่าไม้ มีการขึ้นทะเบียนป่าชุมชนทั้งประเทศ 10,382 หมู่บ้าน เนื้อที่ 5,653,368 ไร่ โดยจังหวัดขอนแก่น 255 หมู่บ้าน เนื้อที่ 57,242 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 16,842 ไร่ พื้นที่ป่าไม้ พ.ศ. 2484 จำนวน 26,424 ไร่ และที่ นสล. จำนวน 52 แห่ง 13,975 ไร่ ส่วนเขตอ.อุบลรัตน์ มีป่าชุมชน 6 หมู่บ้าน เนื้อที่ 436 ไร่ในเขตป่าไม้ พ.ศ.2484 จำนวน 2 แห่ง 252 ไร่ และที่ดิน นสล.จำนวน 4 แห่ง 184 ไร่"
"ศรีสุวรรณ"ร้องป.ป.ช.สอบ "พล.อ.อนุพงษ์"เอื้อนายทุน
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย นายประทีป กีรติเรขา อธิบดีกรมที่ดิน นายโชติ เชื้อโชต ผอ.สำนักกฎหมาย สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย นายกำธร ถาวรสถิต อดีตผวจ.ขอนแก่น และจ.ส.อ.อดุลย์ศักดิ์ เล่ห์กัน อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น กรณีใช้อำนาจอนุมัติให้บริษัทเอกชนได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะประโยชน์ป่าชุมชนโคกห้วยเม็ก ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น 31 ไร่
เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อหากำไรสูงสุดมาแบ่งปันกันเฉพาะในกลุ่มผู้ถือหุ้น ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ ที่สำคัญพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นป่าชุมชนที่มีสภาพสมบูรณ์ ที่ราษฎรยังใช้ประโยชน์อยู่ เพียงแต่สภาพป่าอาจไม่หนาแน่นเท่าป่าดงดิบ เพราะเป็นป่าเต็งรัง และยืนยันว่าไม่ใช่ป่าแห้งแล้ง ที่ชาวบ้านไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วตามที่ อธิบดีกรมที่ดินชี้แจงมา มีภาพถ่ายยืนยันเรื่องสภาพป่าชัดเจน ทั้งนี้ ขอรอดูท่าที ป.ป.ช. และพล.อ.อนุพงษ์ ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร หากยังเพิกเฉย จะไปยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนการใช้ที่ดินดังกล่าวต่อไป