วันนี้ (22 ก.ย.2560) กระทรวงการคลัง พบพนักงานธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กบางส่วน พยายามรักษาลูกค้าโดยเสนอแนะแนวทางหลบเลี่ยงภาษีในบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ ซึ่งกรมสรรพากรประกาศยกเว้นการเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ไม่เกิน 20,000 บาท เพื่อสนับสนุนการออม จากปกติหากมีเงินฝากเกินนี้จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 15 ของดอกเบี้ยที่ได้รับ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้พบปัญหาพนักงานธนาคารบางส่วน เสนอแนะแนวทางหลบเลี่ยงภาษีเงินฝากให้ลูกค้า เนื่องจากดอกเบี้ยออมทรัพย์ จะคิดดอกเบี้ยให้ผู้ฝากทุกวัน แต่จ่ายปีละ 2 ครั้ง และเมื่อใกล้ถึงวันที่ดอกเบี้ยจะครบกำหนดเงื่อนไขที่ต้องเสียภาษี พนักงานธนาคารจะแจ้งให้ลูกค้ามาดำเนินการปิดบัญชีและฝากใหม่กับธนาคารเพื่อรักษาลูกค้า และยอดเงินฝากที่ต้องทำให้กับสาขา
นายอภิศักดิ์ จึงสั่งให้กรมสรรพากรศึกษาแนวทางการลดช่องโหว่ดังกล่าว โดยอาจยกเลิกประกาศยกเว้นภาษีเงินฝากฉบับดังกล่าว และออกประกาศแก้ไขให้ผู้ฝากเงินที่ได้ดอกเบี้ยไม่เกิน 20,000 บาท ยื่นเอกสารหลักฐานขอรับการลดหย่อนเมื่อครบปีภาษี หรือขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลสถาบันการเงินที่มีพฤติกรรมดังกล่าว และหากปฏิบัติตามก็ต้องมีบทลงโทษที่ชัดเจน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยังได้รับรายงานปัญหาธรรมาภิบาลของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแห่งหนึ่ง ออกหนังสือชี้ชวนนักลงทุน โดยเขียนให้เชื่อว่าลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงๆ แต่กลับมีหมายเหตุตัวอักษรเล็กว่า สามารถลงทุนในบริษัทอื่นๆ ได้ และพบว่าบริษัทดังกล่าว ลงทุนในตั๋วเงิน บีอี ที่มีความเสี่ยงสูงๆ จนเกิดปัญหาผิดนัดชำระทำให้นักลงทุนขาดทุน แต่ไม่สามารถดำเนินการฟ้องร้องใดๆ ได้ เนื่องจากบริษัทอ้างว่าได้แจ้งในเอกสารชี้ชวนแล้ว ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ อาจต้องเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามปัญหาการออกเอกสารชี้ชวนลงทุนต่างๆ