ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอมา โดยมีสาระสำคัญคือ การจ่ายเงินสงเคราะห์ โดยนำเงินจากกองทุนภาษีบาป ร้อยละ 2 จำนวน 4,000 ล้านบาทต่อปี มาเพิ่มเป็นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และต้องเป็นผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยตามที่ได้ขึ้นทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ
โดยผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยจะได้เบี้ยยังชีพเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 100 บาท อาทิ จากเดิมคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีรายได้น้อย จากที่เคยได้เบี้ยยังชีพ 600 บาท เพิ่มเป็น 700 บาท, อายุ 70 ปี จากเดิมได้ 700 บาท เพิ่มเป็น 800 บาท
ทั้งนี้ จะมีผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีและไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้มีรายได้น้อย ได้รับสิทธิดังกล่าวกว่า 3 ล้านคน ขณะเดียวกันยังมีการเพิ่มสวัสดิการในส่วนอื่นๆ สำหรับคนสูงอายุที่มีรายได้น้อย อาทิ การให้เงินช่วยเหลือค่าซ่อมแซมและปลูกสร้างบ้าน ผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง เป็นต้น
สมาชิก สนช.ส่วนใหญ่ต่างอภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากมีผู้สูงอายุในสังคมไทยเพิ่มมากขึ้น เป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาส จึงควรได้รับเบี้ยยังชีพเพิ่มขึ้น และควรคัดกรองกลุ่มผู้สูงอายุที่เดือดร้อนจริงๆ เพื่อความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ