พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลัง นำนายยาสึอากิ คาวาชิตะ และนางเออิโกะ คาวาชิตะ บิดาและมารดาของ น.ส.โทโมโกะ คาวาชิตะ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ซึ่งถูกฆาตกรรมบริเวณวัดสะพานหิน ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2550 เข้าพบ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ช่วยเร่งการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ โดยเพิ่มแรงจูงใจด้วยการเพิ่มรางวัลนำจับ จาก 500,000 บาท เป็น 1,600,000 บาท และยืนยันว่าดีเอสไอทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งการตรวจสอบดีเอ็นเอของเจ้าหน้าที่และบุคลภายนอกที่อยู่ในเหตุการณ์กว่า 300 คน แต่ดีเอ็นเอไม่ตรงกับดีเอ็นเอตัวอย่างที่พบในร่างผู้ตาย
อย่างไรก็ตามยอมรับว่ากว่าคดีจะส่งมาในความรับผิดชอบของดีเอสไอ ก็ล่วงเลยไปแล้วถึง 6 ปี จึงยากต่อการเก็บหลักฐาน ต้องใช้วิธีการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับคดีนี้ โดยเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ปิดคดีนี้ให้ได้เร็วที่สุด เพราะมีความล่าช้ามาถึง 10 ปี พร้อมขอความร่วมมือกรมประชาสัมพันธ์ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่รู้เห็นการกระทำความผิด หรือเบาะแสในพื้นที่ ช่วยแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือดีเอสไอ ได้ตลอด หรือผ่านทางเว็บไซต์ของดีเอสไอได้อีกหนึ่งช่องทาง