นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ กรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ วิป สนช. ยืนยันว่า กรณีสมาชิก สนช.เข้าชื่อกันให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ หรือร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.เท่านั้น ไม่ได้ยื่นร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จึงไม่มีเหตุให้ต้องกระทบต่อโรดแมปการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
พร้อมเปิดเผยว่าสมาชิก สนช.ที่เข้าชื่อทั้ง 30 คน เป็นสมาชิกที่งดออกเสียงและไม่มาประชุม ไม่มีสมาชิกที่เห็นชอบร่างกฎหมายลูกร่วมลงชื่อแต่อย่างใด
ขณะที่นายสมชาย แสวงการ เลขานุการ วิป สนช. กล่าวว่า แม้ กรธ.จะมีประเด็นท้วงติงถึงร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ แต่ สนช.ยื่นเพียงฉบับเดียว และหากฝ่ายการเมืองยังคงกังวลจะกระทบภายหลัง สนช.พร้อมจะยื่นตีความ แต่พรรคการเมืองต้องร่วมลงสัตยาบันยินยอมรับผลกระทบถึงโรดแมปออกไปอีก 3 เดือน
แต่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ว่า ไม่น่าจะมีหัวหน้าพรรคการเมืองไปลงนามสัตยาบันตามที่เลขานุการ วิป สนช. เสนอ เพราะพรรคการเมืองไม่สามารถดำเนินกิจกรรม หรือมีมติใดๆได้ หาก สนช.พยายามให้ คสช.อยู่ต่อไป ก็ไม่ควรสร้างความชอบธรรมโดยใช้พรรคการเมืองเป็นเครื่องมือ
ด้านนายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นว่า ปัญหาที่นำไปสู่การยื่นร่างกฎหมายลูกให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เป็นเพราะสถานการณ์ไม่ปกติ ระหว่างแม่น้ำ 5 สายของ คสช.เอง จึงส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นประเทศ