หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. มีคำสั่งมาตรา 44 ระงับนโนบายเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ ซึ่งมีผลต่อบริษัท อัครา รีซอร์สเซส ที่ต้องหยุดประกอบกิจการชั่วคราว ไปด้วยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.60 และขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาผ่านกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ เนื่องจาก บ.คิงเกตส์ สัญชาติออสเตรเลีย บริษัทแม่ของเหมืองแร่ทองคำชาตรี จ.พิจิตร ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งและยืนยันมาตลอดว่า การประกอบกิจการในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ได้มาตรฐานสากล
ขณะที่กลุ่มชาวบ้าน รอบเหมืองแร่ทองคำ เรียกร้องรัฐบาลและฝ่ายเกี่ยวข้องตรวจสอบและแก้ปัญหา ทั้งด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม เนื่องจาก ปี 2558 ผลการสุ่มตรวจเลือดของชาวบ้านและเด็กในพื้นที่เกินกว่าครึ่ง พบสารโลหะหนักประเภทแมงกานีส สารหนู และไซยาไนต์สูงเกินค่ามาตรฐาน จากจำนวนที่ตรวจกว่า 700 คน
ส่วนด้านสิ่งแวดล้อม พบสารโลหะหนักปนเปื้อน ในแหล่งน้ำสาธารณะ และพืชผักสวนครัว จนทางการต้องประกาศให้ประชาชนงดบริโภค และทำโครงการแจกคูปองแลกผัก และแจกจ่ายน้ำดื่มเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านรอบเหมืองแร่ทองคำกว่า 200 ครัวเรือน
ข้อกังวลที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ทำให้วันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) กลุ่มชาวบ้านอาจเดินทางมาพบนายกรัฐมนตรี ที่จะลงพื้นที่บริเวณบึงสีไฟ อ.เมืองพิจิตร และยื่นเอกสารคัดค้านการเดินหน้านโยบายเหมืองแร่ทองคำจังหวัดพิจิตร และอาจนำไปสู่การตัดสินใจของรัฐบาล ที่จะปลดล็อคนโยบายให้ขยายพื้นที่สำรวจสายแร่ทองคำอีก 12 จังหวัด ทั่วประเทศ ซึ่งถูกระงับตามมาตรา 44 ได้แก่ พิจิตร พิษณุโลก ลพบุรี เลย สตูล สระแก้ว สุราษฎร์ธานี จันทบุรี ระยอง สระบุรี นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ และขณะนี้เริ่มเกิดปัญหา ชาวบ้านที่โฉนดที่ดินใน อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร นับพันครัวเรือน ถูกเรียกคืนโฉนดเพื่อเอาพื้นที่กลับไปเป็นป่าไม้ ตามนโยบายทวงคืนผืนป่า และทำให้กลุ่มชาวบ้าน ร้องเรียนให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบในขณะนี้ด้วย