ฟุตบอลโลก นัดที่ 2 กลุ่ม A เจ้าภาพรัสเซีย ที่ถล่ม ซาอุดีอาระเบีย มา 5-0 ในเกมเเรก พบ อียิปต์ ที่เเพ้ อรุกวัย 0-1 โดยเกมนี้ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ผ่านความฟิตลงช่วยทีม เเต่เป็นรัสเซีย ที่ออกนำก่อน 1-0 ในนาที 47 จากจังหวะลูกยิงของ โรมัน ซอบนิน เเละเป็น อาห์เหม็ด ฟาธี้ ที่สกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง
หลังจากนั้น รัสเซีย นำห่าง 2-0 ในนาที 59 จาก เดนิส เชอรีเชฟ เเละนับเป็นประตูที่ 3 ของเชอรีเชฟ ในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ ถัดมา 3 นาที เจ้าภาพ ทิ้งเป็น 3-0 จากทักษะอันเหนือชั้นของ อาร์เต็ม ซูบ้า
หลังจากนั้นนาที 73 ผู้ตัดสินดูภาพช้าจาก VAR ในจังหวะซอบนิน ทำฟาล์ว ซาลาห์ ในเขตโทษ ก่อนจะเป่าให้จุดโทษ เเละเป็น ซาลาห์ สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ อียิปต์ ไล่ตามเป็น 1-3 เเต่ไม่ทันจบเกม รัสเซีย เก็บชัยได้ 2 เกมติดต่อกัน มีเพิ่มเป็น 6 คะเเนน มีโอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเกือบร้อยเปอร์เซนต์ เเละเป็นครั้งเเรกตั้งเเต่เเยกตัวจากสหภาพโซเวียต ที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศในปี 1966 , ส่วน อียิปต์ เเพ้ 2 เกมติด โอกาสตกรอบค่อนข้างเเน่นอนเเล้ว นัดสุดท้ายของกลุ่ม A รัสเซีย พบ อุรุกวัย เเละ อียิปต์ พบ ซาอุฯ ในวันที่ 25 มิ.ย.เวลา 21.00 น.
ต่อกันที่ นัดเเรก กลุ่ม H เซเนกัล พบ โปเเลนด์ นาที 37 เซเนกัล ขึ้นนำก่อน 1-0 จากลูกยิงของ อิดริสซ่า กาน่า เกย์ ยิงไปเเฉลบ ติอาโก้ ซิโอเน็ค เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง ถัดมานาที 60 เกิดจังหวะปัญหาเมื่อ ครีโชเวียค ส่งบอลคืนหลัง เเต่กลับถูก เอ็มบาย เนียง ที่ออกไปปฐมพยาบาลอยู่ข้างสนาม วิ่งกลับเข้ามาฉกบอลยิงประตูเข้าไปให้ เซเนกัล ขึ้นนำ 2-0 ท่ามกลางการประท้วงของนักเตะโปเเลนด์ เเต่ไม่เป็นผล
ก่อนหมดเวลา 4 นาที โปเเลนด์ ไล่ตามเป็น 1-2 จากลูกโหม่งของ เกอร์เซกอร์ซ กรีโชเวียค จบเกม เซเนกัล พลิกชนะ โปเเลนด์ 2-1 คว้าชัยเป็นครั้งเเรกในรอบ 16 ปี ต่อจากที่เคยทำได้ในนัดเปิดสนามปี 2002 ที่ชนะ ฝรั่งเศส 1-0 เเละเป็นทีมจากเเอฟริกาชาติเเรก ที่คว้าชัยในบอลโลกหนนี้
อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ญี่ปุ่น พบ โคลอมเบีย จุดเปลี่ยนสำคัญ เกิดขึ้นตั้งเเต่นาทีที่ 3 เมื่อ คาร์ลอซ ซานเชซ กองกลางโคลอมเบีย ใช้เเขนปัดลูกยิงของ ชินจิ คากาวะ ในเขตโทษ จนถูกใบเเดงไล่ออกจากสนาม ก่อนที่ คากาวะ จะยิงจุดโทษให้ ญี่ปุ่น พลิกขึ้นนำก่อน 1-0 ซึ่งเป็นใบเเดงที่เร็วสุดเป็นอันดับ 2 ในฟุตบอลโลก เป็นรอง โฮเซ่ อัลเเบร์โต้ บาติสต้า ของอุรุกวัย เมื่อ 32 ปีที่เเล้ว ซึ่งคราวนั้นเล่นไปเพียง 54 วินาทีเท่านั้น
หลังจากนั้น โคลอมเบีย ที่เหลือผู้เล่น 10 มาได้ลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา เเละเป็น ฮวน กินเตโร่ ที่หลอกยิงเข้าไป โดยใช้เทคโนโลยีโกลไลน์ช่วยตัดสิน ทำให้ โคลอมเบีย ตามตีเสมอ 1-1 ในนาที 39
กลับมาเล่นในครึ่งหลัง ญี่ปุ่น ที่ได้เปรียบตัวผู้เล่น มีโอกาสทำประตูหลายครั้ง จนมาประสบความสำเร็จ ในนาที 73 จากจังหวะเตะมุม ฮอนดะ ตัวสำรอง เปิดบอลให้ ยูยะ โอซาโกะ กองหน้าป้ายเเดงจาก เบรเมน โหม่งประตูชัยให้ ญี่ปุ่น พลิกล็อกชนะ โคลอมเบีย 2-1 กลายเป็นชาติจากเอเชียทีมเเรก ที่ชนะทีมจากอเมริกาใต้ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย จากการพบกันทั้งหมด 18 ครั้งก่อนหน้านี้ โดยเเบ่งเป็นชนะ 1 เสมอ 3 เเละเเพ้ 14 เกม นัดต่อไป ญี่ปุ่น พบ เซเนกัล เเละโปเเลนด์ พบ โคลอมเบีย ในวันที่ 24 มิ.ย.