ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 มิ.ย.2561) นักประดาน้ำใช้เวลาค้นหานักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอน 13 คน ที่ติดอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตั้งอยู่ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นานกว่า 6 ชั่วโมง แต่ไร้วี่แวว ต้องยุติการค้นหาเวลา 22.00 น.เนื่องจากน้ำในถ้ำยังมีระดับสูง สีขุ่นมองไม่เห็น มีหินงอกหินย้อยบางช่วงแคบ อากาศภายในถ้ำมีน้อย และความมืด ส่งผลให้การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะที่เส้นทางการค้นหามีดินเหนียวและทรายเป็นอุปสรรค ไม่สามารถผ่านไปได้
จึงต้องยุติการค้นหาเพื่อวางแผนการค้นหาใหม่อีกครั้งร่วมกับหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีลของกองทัพเรือ และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง
นาวาเอกอนันท์ สุราวรรณ์ ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 1 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย นักประดาน้ำและไกด์ชาวบ้าน ถึงปัญหาและความยากลำบากของการปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายทั้ง 13 คน
เบื้องต้นหน่วยซีลแบ่งกำลังเป็น 3 ชุด ชุดแรกเข้าสำรวจพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์ อีก 2 ชุดเตรียมความพร้อม โดยเข้าค้นหาพร้อมอุปกรณ์ในเวลา 06.00 น.วันนี้
ผมวาดแผนที่คร่าวๆ ไว้ หากพิจารณาแล้วจะพบว่ามีห้องโถงด้านซ้ายจากสามแยกที่พบสัมภาระของผู้สูญหาย 13 คน วางไว้ จุดนี้ถือว่าน้ำท่วมยังไม่ถึงพอมีพื้นที่ให้บ้าง แต่การไปถึงจุดนั้นได้ พบว่าอุปสรรคคือช่องใต้น้ำที่ลึก 5 เมตร มีบางอย่างกีดขวางทำให้มองไม่เห็น ไม่สามารถเข้าไปได้ ทำให้ต้องมีการวางแผนกันใหม่ให้รัดกุมและรอบคอบ
ทั้งนี้ ญาติผู้สูญหายต่างผิดหวังเมื่อได้รับข่าวว่ายังไม่ได้สามารถช่วยได้ เพราะติดอุปสรรคหลายอย่าง วันนี้พวกเขายังคงเฝ้ารออย่างมีความหวังกับการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยซีลที่เข้าช่วยเหลือ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ภารกิจ"หน่วยซีล" เข้าพื้นที่ถ้ำหลวง ปรับแผนช่วย 13 ชีวิต
นายกฯ ห่วงใย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง กำชับ จนท.ช่วยเหลือเต็มที่
ประเมินกายภาพถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย
ปฏิบัติการ 50 ชั่วโมง "หน่วยซีล" ค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง
กสทช. ประสาน 5 ค่าย ขยายช่องสัญญาณโทรศัพท์ถ้ำหลวง
ข่าวดี ! พบร่องรอย 13 ชีวิต "ถ้ำหลวง" ปรับแผนช่วยชีวิต
นักสำรวจกางแผนที่ถ้ำหลวง ลุ้นช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำ
3 วันลำดับเหตุการณ์ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง
เร่งช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เชียงราย
"หน่วยซีล" เจาะทะลุผนังกั้นถ้ำหลวงค้นหา 13 ชีวิต
รู้จักทีม "หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย"