กรมการขนส่งกำแพงเพชร แสดงเครื่องหมายรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทาง หรือ "เช่าเหมา" รวมถึงรถบรรทุก ที่ต้องติดตั้งจีพีเอสตามกฎหมาย และเมื่อขับเกิน 90 กม./ชั่วโมง จะส่งสัญญาณ "สีแดง" เพื่อเตือนความเร็ว
แต่กรณีรถตู้ที่เกิดอุบัติเหตุกลับไม่พบสัญญาณจีพีเอส ตั้งแต่แรกเพราะตามขั้นตอนผู้ขับรถตู้รับจ้างจะต้องรูดบัตร เพื่อยืนยันตนในระบบจีพีเอสทุกครั้ง ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ทราบตัวตน
เวลาในการขับขี่และความเร็วที่ใช้ เพราะตามกฎหมายบังคับให้ผู้ขับขี่ห้ามขับรถต่อเนื่องไม่เกิน 4 ชั่วโมง และต้องพักอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงจึงจะขับต่อได้
นายกมล บูรณะพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า รถตู้ที่เกิดเหตุข้อมูลจีพีเอสขาดเป็นระยะ ซึ่งอาจใช้การตัดสัญญาณ หรือ แจมเมอร์ จึงไม่ปรากฎความเร็ว ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะลงโทษกรณีนี้รวมถึงลงโทษกรณีบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนดด้วย
ขณะที่ นายสุรชัย ทับยา ขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า คนขับรถตู้ที่จงใจไม่แสดงสัญญาณจีพีเอส เพราะอาจหลบเลี่ยงระยะเวลาในการขับขี่และความเร็วที่ใช้ เพราะอาจต้องเดินทางไปรับผู้โดยสารในหลายพื้นที่และรีบส่งผู้โดยสารตามรอบเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ เครื่องตัดสัญญาณ สามารถหาซื้อได้ทั่วไป เช่น การซื้อผ่านเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย ในราคา 400-600 บาท
แหล่งข่าวที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับรถตู้ประเภท "เช่าเหมา" เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีกลุ่มรถตู้ รับ-ส่งแรงงานข้ามชาติ เช่นที่ จ.สมุทรสาคร แต่เมื่อผู้โดยสารไม่เต็มไม่คุ้มค่าจึงจะต้องวิ่งรับแรงงานในจังหวัดอื่นๆ ของภาคกลางด้วย จากนั้นจึงจะวิ่งผ่านถนนหลวงสายหลักเพื่อไปส่งแรงงานต่อวีซ่าที่ปลายทาง เช่น อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งรถตู้เหล่านี้มักวิ่งเป็นขบวน
ดังนั้นการตัดสัญญาณจีพีเอสหรือใช้เครื่องรบกวนจะช่วยป้องกัน ทั้งเวลาของคนขับที่กฎหมายห้ามวิ่งต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง และความเร็วที่ใช้ในการขับขี่ อย่างไรก็ตามหากมีการรูดบัตรเข้าระบบจีพีเอสแต่แรก เพื่อยืนยันตนและใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนดกระบวนการนี้ก็ไม่ผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม กรณีที่กลุ่มรถตู้เลือกรับคนงานที่วีซ่าหมดอายุอาจมีบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง ที่ทราบเวลาหมดอายุของวีซ่า และจัดรถตู้เพื่อรับ-ส่ง แรงงานข้ามชาติเหล่านี้ จึงจะสามารถกำหนดจำนวนรถตู้และจำนวนคนที่คุ้มค่า รวมถึงกำหนดจุดรับ-ส่ง ในพื้นที่ภาคกลางและพื้นที่ปลายทางได้อย่างถูกต้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง